Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

กรมทะเล MOU ร่วมกับ ปตท.สผ. เดินหน้าโครงการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for life)

Onlinenewstime.com : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. ร่วมกับ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for Life) ในวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2563 ณ ห้องประชุมลำแพน ชั้น 9 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยมีนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. เป็นผู้ลงนาม พร้อมกันนี้ได้มีคณะผู้บริหารจากทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน

การดำเนินการภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นแผนระยะยาว 10 ปี ตั้งแต่ปี 2563 – 2573 เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องทะเลไทย และเพิ่มรายได้แก่ชุมชนใน 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย

โดยมีแผนการดำเนินงานการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต หรือOcean for Life  ซึ่งครอบคลุมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหลายด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการขยะทะเล การป้องกันขยะลงสู่ทะเลด้วยการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนทั่วไป ให้ตระหนักถึงความสำคัญของทะเล และการใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการกำจัดขยะและแปรรูปขยะเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ การปลูกและฟื้นฟูป่าชายเลนให้สามารถเป็นแหล่งอนุบาล สัตว์น้ำ ชายฝั่งและระบบนิเวศที่มีความสมบูรณ์ การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์วิถีประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลหายาก  

การจัดทำแนวเขตอนุรักษ์และเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลบริเวณชายฝั่ง หรือบ้านปลา เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและปริมาณสัตว์น้ำ และรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล  และการสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปที่มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงการสนับสนุนงานวิจัยเพื่อการตรวจติดตามสุขภาพของมหาสมุทร และความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for life) ว่า ภารกิจหลักของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คือการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อความมั่งคั่ง สมดุล และยั่งยืนของทะเลไทย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ

แต่ด้วยพื้นที่ทางทะเลกว่า 202 ล้านไร่ ป่าชายเลนกว่า 2.58 ล้านไร่ เกาะกว่า 533 เกาะ และชายฝั่งความยาวกว่า 3,151 กิโลเมตร จำเป็นต้องหาพันธมิตรที่มีอุดมการณ์ ความพร้อม และมีความตั้งใจที่จะอนุรักษ์ ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาร่วมกันปฏิบัติงาน ซึ่งบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและสำรวจปิโตรเลียมในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลที่ดีมาโดยตลอด จึงได้ร่วมหารือแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน และตกลงลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for life)

ซึ่งจะร่วมกันดำเนินงานโครงการ/กิจกรรม เป็นระยะเวลา 10 ปี ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ ปตท.สผ. จะได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการและคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อน การดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิตต่อไป

ด้าน นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. กล่าวว่า “ปตท.สผ. มีภารกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ โดยพื้นที่ปฏิบัติการส่วนใหญ่ของ ปตท.สผ. อยู่ในทะเล ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเรา ที่ต้องช่วยกันดูแลและปกป้อง      

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท.สผ. มีการดำเนินกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ  ในการอนุรักษ์ท้องทะเลหลายโครงการ โดยได้ร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานราชการส่วนกลางและท้องถิ่นและทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปู โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และโครงการแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเล เป็นต้น

ปตท.สผ. มีความยินดีอย่างยิ่งที่แนวทางการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต หรือ Ocean for Life ได้รับการสนับสนุนจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางชีวภาพให้กับทะเลไทยอย่างยั่งยืน รวมทั้ง ยังเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวให้กับชุมชนรอบชายฝั่ง ซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนบ้านของเราอีกด้วย”

สำหรับพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงานในครั้งนี้ ได้แก่ พื้นที่ 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย ได้แก่ จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นราธิวาส รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร

การดำเนินงานในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ SDG 14 Life Below Water การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและมหาสมุทรอย่างยั่งยืนอีกด้วย

Exit mobile version