Onlinenewstime.com : กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าสานต่อกิจกรรมห่วงใยโอโซน ในวันโอโซนสากลประจำปี 2564 โดยมุ่งทำตามพันธกิจสำคัญของพิธีสารมอนทรีออล ซึ่งในปีนี้อยู่ภายใต้ Theme Montreal Protocol : Keeping us, Our food and Vaccines cool โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญ และคุณค่าของชั้นบรรยากาศโอโซน ที่มีผลต่อการดำรงชีวิต
โดยในปีนี้ในส่วนของประเทศไทย มีการจัดแคมเปญ “โอโซนดี ชีวิตก็ดี” รวมพลังคนไทย ลดเลิกใช้สาร HCFC ซึ่งเป็นการรณรงค์ให้ทุกคน หันมาดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้ตัวที่ยังมีสาร HCFC อยู่ในอุปกรณ์ เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โดยทุกคนสามารถช่วยเหลือโลกได้ โดยเริ่มต้นที่ตัวเรา ผ่านการหมั่นดูแลตรวจเช็คสภาพการใช้งาน ตลอดจนทำความสะอาด ปิดเมื่อไม่ใช้ นับเป็นการใช้สารทำความเย็น HCFC เท่าที่จำเป็น เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลก
สืบเนื่องจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ได้ประกาศให้วันที่ 16 กันยายน ของทุกปีเป็นวันโอโซนสากล หรือ วันโอโซนโลก (World Ozone Day) เพื่อให้มนุษยชาติ ตระหนักถึงคุณค่าของชั้นบรรยากาศโอโซนของโลกที่คอยป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากดวงอาทิตย์ไม่ให้ส่องลงมายังโลกมากเกินไป
ขณะที่ปัจจุบันโอโซนในชั้นบรรยากาศของโลก มีขนาดเบาบางลงมากจนอาจส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะมนุษย์ ทั้งผลกระทบกับระบบภูมิคุ้มกันลดลง เกิดมะเร็งผิวหนัง หรือตาต้อกระจก และเมื่อชั้นบรรยากาศโอโซนบางลง จะทำให้รังสียูวีส่องลงมายังโลกได้มากขึ้น ทำให้ระบบนิเวศวิทยาต่างๆ บนโลกเสียสมดุล กระทบต่อห่วงโซ่อาหาร และพืชผลทางการเกษตร
ด้วยเหตุนี้ จึงได้กำหนดให้มีวันโอโซนสากล เพื่อเป็นการพิทักษ์และดูแลชั้นบรรยากาศโอโซนของโลก โดยมีประเทศภาคีสมาชิกทั้ง 197 ประเทศ ซึ่งมีประเทศไทยร่วมอยู่ด้วย ได้ให้สัตยาบัน เข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกพิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน เพื่อให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการปกป้องชั้นบรรยากาศโอโซน และให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน มุ่งลดการใช้สารไฮโดรคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (HCFC) ศัตรูตัวร้ายที่ทำลายโอโซน ตลอดจนปรับไลฟ์สไตล์เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อชั้นบรรยากาศโอโซน
“นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าประเทศไทย โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานต่าง ๆ ให้เป็นตามพันธกรณีภายใต้พิธีสารมอนทรีออล โดยมีบทบาทดูแล รับผิดชอบต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตโฟม อุตสาหกรรมผลิตตู้เย็น ตู้แช่เชิงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมผลิตเครื่องปรับอากาศ อุตสาหกรรมผลิตถังดับเพลิง อุตสาหกรรมผลิตสเปรย์กระป๋อง
และได้จัดแคมเปญ “โอโซนดี ชีวิตก็ดี” ขึ้น เนื่องในวันโอโซนสากลประจาปี 2564 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการตอกย้ำพันธกรณีของพิธีสารมอนทรีออล และเดินหน้ากิจกรรม กระตุ้นและรณรงค์ให้ประชาชนหันมาใส่ใจ อุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้สารทำความเย็นที่อยู่ใกล้ตัวมากขึ้น”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีการดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อขานรับข้อกำหนดพิธีสารมอนทรีออลว่าด้วยสารทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ทั้งการออกกกฎหมายเลิกการใช้สาร CFC ในประเทศอย่างเด็ดขาด ลดและเลิกการใช้สาร HCFC และเปลี่ยนไปใช้สารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตลอดจนเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานมากขึ้น อาทิ ห้ามโรงงานใช้สาร HCFC-22 ในกระบวนการผลิตเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดทำความเย็นต่ำกว่า 50,000 บีทียูต่อชั่วโมง เพื่อจำหน่ายในประเทศ และห้ามใช้สาร HCFC-141b ในกระบวนการผลิตโฟมทุกประเภท ยกเว้นการผลิตโฟมแบบฉีดพ่น (Spray foam)
อีกทั้งยังจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ในการปกป้องชั้นบรรยากาศโอโซนโดยเริ่มตั้งแต่ระดับเด็กและเยาวชน ทั้งยังสร้างสรรค์โครงการลดและเลิกใช้สาร HCFC ในรูปแบบต่างๆ อีกมากมาย
สำหรับครั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม จะมุ่งเน้นการให้ความรู้กับประชาชนทั่วไป เพื่อให้ทราบถึงวิธีการลดและเลิกการใช้สาร HCFC ที่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ซึ่งอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่อยู่รอบตัวผู้บริโภคเป็นประจำทั้งสิ้น โดยมีแนวคิดเริ่มเปลี่ยนแปลงโลกด้วย “ตัวเอง” ก่อน โดยกระตุ้นให้คนไทยคิดก่อนซื้อ และหันมาดูแลตรวจเช็คสภาพการใช้งานเครื่องทำความเย็นต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งาน ไปพร้อมกับลดการรั่วไหลของสาร HCFC เช่น หากกำลังตัดสินใจซื้อเครื่องปรับอากาศใหม่ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ได้ขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการหรือไม่ และควรทำความสะอาด ปิดเมื่อไม่ใช้ เช่นเดียวกับตู้เย็น โดยเฉพาะแผงระบายความร้อนด้านหลัง เพื่อให้เกิดการใช้สารทำความเย็น HCFC เท่าที่จำเป็น
ขณะเดียวกันก็พร้อมให้ความรู้การจัดการกับตู้เย็น หรือเครื่องปรับอากาศที่มีปัญหาหรือเสียหาย ว่าจำเป็นต้องใช้ช่างที่มีการรับรองจากสถาบันที่เชื่อถือได้ หรือหน่วยงานที่ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจถึงขั้นตอนการซ่อมแซมที่ถูกต้อง ถูกวิธี ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และจัดการให้เครื่องมือ/อุปกรณ์ยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ควรจัดการตู้เย็น หรือเครื่องปรับอากาศที่ไม่สามารถใช้งานได้ ให้ได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วไหลของสาร HCFC ที่จะส่งผลถึงชั้นบรรยากาศโอโซนที่ทั้งโลกต่างร่วมกันปกป้อง
“กิจกรรมที่เกิดขึ้นนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรม มีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่ง ในการมุ่งผลักดันให้สังคมเห็นความสำคัญของชั้นบรรยากาศโอโซน และหวังให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ ลดการใช้สารที่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และมีความตื่นตัวที่จะช่วยกันรักษ าและปกป้องชั้นบรรยากาศโอโซนของโลกเรา
รวมถึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานเครื่องใช้ใกล้ตัวด้วยวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อรักษาชั้นบรรยากาศโอโซนและโลกของเราให้น่าอยู่ตลอดไป และที่สำคัญเพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีของเราเองด้วยเช่นกัน” นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวถึงความคาดหวังสำหรับแคมเปญ“โอโซนดี ชีวิตก็ดี” ในครั้งนี้