Onlinenewstime.com : กรม สบส. เตือนประชาชน เตรียมพร้อมเฝ้าระวังรับฝุ่น PM 2.5 เลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น หากมีอาการผิดปกติทางเดินหายใจควรรีบพบแพทย์
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในช่วงเดือนระหว่างเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นช่วงหน้าหนาว สภาพอากาศแห้งและลมนิ่ง ทำให้ฝุ่นละอองสามารถแขวนลอยอยู่ในอากาศ จากการใช้งานยานพาหนะบนท้องถนนประกอบ กับมีฝุ่นละอองการก่อสร้างอาคารและสิ่งก่อสร้างต่างๆ ควันจากมลพิษ การเผาป่า ทำให้มีการกระจายของฝุ่นละอองปกคลุมหนาเป็นบริเวณกว้าง
ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ เป็นสิ่งกระตุ้นทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และการใช้ชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่มีมาตรการผ่อนคลายในการทำกิจการ สถานประกอบการ และกิจกรรมต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารนอกบ้าน การจัดกิจกรรมคอนเสิร์ต การเปิดสถานศึกษาบางแห่ง การเปิดให้ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ประชาชนออกมาใช้ชีวิตข้างนอกมากขึ้น
ดังนั้น ควรสวมหน้ากากอนามัยที่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และสามารถช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 ปัจจุบันค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
สำหรับค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) ที่เป็นค่าวัดฝุ่น PM 2.5 มี 5 ระดับด้วยกัน ซึ่งระดับที่ ค่าฝุ่น PM 2.5 ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับปกติ สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ
แต่หากค่าฝุ่น PM 2.5 เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 จากแอปพลิเคชัน “Air4Thai” และเว็บไซต์ www.air4thai.com ทุกครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงและป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากาก PM 2.5 ตลอดเวลาเพื่อป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก
ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่เกินมาตรฐานอาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก วัยเรียนและกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว เสี่ยงต่อการได้รับมลพิษทางอากาศระดับสูง แต่สามารถป้องกันได้ โดยมีข้อปฏิบัติ 7 วิธี ดังนี้
- เลี่ยงทำกิจกรรมหรืองดออกกำลังกายกลางแจ้ง ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน
- สวมหน้ากากอนามัยทั้งแบบผ้าหรือแบบบุคลากรทางการแพทย์ เมื่อจำเป็นต้องออกจากบ้าน หรือสวมหน้ากาก N95 เมื่อต้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นเวลานาน ๆ
- ทำความสะอาดบ้านและโรงเรียนให้สะอาดห้องปลอดฝุ่น
- ลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น เช่น การจุดธูป ปิ้งย่าง เผาขยะ เผาเศษใบไม้ เป็นต้น
- หากพบเด็กหรือบุคคลในครอบครัวมีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบพาไปพบแพทย์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเลี่ยงการออกนอกบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 และ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดหากมีอาการผิดปกติทางเดินหายใจควรพบแพทย์ทันที