กลุ่มทรูปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร ประกาศแต่งตั้ง ศุภชัย ขึ้นประธานคณะกรรมการบริหาร พร้อม 2 แม่ทัพใหญ่นั่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านการพาณิชย์และด้านปฏิบัติการ
ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ของบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งและปรับเปลี่ยนโครงสร้างขององค์กร มีผลตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560
โดยจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) ดูแลการบริหารงานของบริษัท โดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร (Chairman of the Executive Committee ยังคงมีบทบาทในการร่วมกำหนดทิศทาง นโยบายและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทรูต่อไป
ในขณะเดียวกันการดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้บริหารซีพีของนายศุภชัยนั้น ก็จะมีส่วนช่วยสนับสนุนและเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ระหว่างกลุ่มทรูกับธุรกิจในเครือซีพี ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทรูในอนาคตต่อไป
รวมถึงแต่งตั้ง 2 แม่ทัพใหญ่ คือ นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ ปรับตำแหน่งจากรองประธานคณะผู้บริหาร เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านการพาณิชย์ โดยดูแลงานในฐานะผู้บริหารสูงสุดด้านธุรกิจพาณิชย์ทั้งหมด
ตั้งแต่ ธุรกิจโมบายล์ บรอดแบนด์ ทรูวิชั่นส์ ธุรกิจคอนเวอร์เจนซ์
รวมถึงธุรกิจรีเทล ซึ่งนายวิเชาวน์ ได้ทำงานร่วมกับกลุ่มทรูมานานกว่า 25 ปี และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายสื่อสารอันเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการขยายธุรกิจหลักของกลุ่มทรู รวมทั้งมีความสามารถในการผสานความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำจากทั่วโลก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจด้านสินค้าและบริการ เพิ่มศักยภาพของบริษัท ในการแข่งขันระดับภูมิภาค
นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข จากเดิมดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านปฏิบัติการ จะได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ด้านปฏิบัติการ โดยจะควบคุมดูแลงานบริหารจัดการองค์กรทั้งหมด
ซึ่งรวมถึงงานด้านเครือข่าย ระบบสารสนเทศ และบริการลูกค้า โดยตลอดเวลาที่ร่วมงานกับกลุ่มทรู มากว่า 19 ปี นายอติรุฒม์ ได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจหลากหลาย และเป็นผู้ร่วมบุกเบิกธุรกิจใหม่ๆ อาทิ วีพีซีที ทรูมันนี่ รวมทั้งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ในการพัฒนาเทคโนโลยีในการบริหารจัดการ และสร้างเป็นนวัตกรรมบริการ เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นไปตามที่ได้มีการวางแผนการสืบทอดตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะขณะนี้กลุ่มทรูมีความแข็งแกร่งทั้งด้านการเงิน สินค้าบริการ คุณภาพและความครอบคลุมของเครือข่าย และมีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะเติบโตและก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม
การปรับโครงสร้างและการสืบทอดตำแหน่งที่ประกาศในครั้งนี้ มีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกลุ่มทรู ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ทั้ง 2 ท่านนี้ต่างเป็นแม่ทัพที่แข็งแกร่ง มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานที่สำคัญของกลุ่มทรู
อีกทั้งยังร่วมบริหารงานผ่านช่วงวิกฤติต่างๆขององค์กรมาโดยตลอด จึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนและนำพากลุ่มทรูก้าวเป็นองค์กรที่สร้างผลกำไร และเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
นายศุภชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงสร้างใหม่ครั้งนี้ เป็นอีกก้าวที่สำคัญในการยกระดับองค์กร เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลแพลตฟอร์ม และดิจิทัลมีเดียอย่างแท้จริง โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาที่ชัดเจนยิ่งขึ้นทั้งการสร้างผลกำไรเพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งการเพิ่มศักยภาพระบบปฏิบัติการให้แข็งแกร่งเต็มกำลัง เพื่อขับเคลื่อนกลุ่มทรูจากการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมสู่ผู้ให้บริการดิจิทัลที่เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบวงจรในอนาคต”