fbpx
News update

“คณะบริหารธุรกิจนิด้า” จับมือ “SIAM ICO” เปิดหลักสูตรบล็อกเชนให้ผู้บริหารองค์กรภาครัฐและเอกชน

www.onlinenewstime.com : บนข้อเท็จจริงที่ว่าการแข่งขันทางธุรกิจในโลกยุคปัจจุบัน ได้กำหนดให้องค์กรยุคใหม่ต้องหาเครื่องมือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อความเท่าทันและไม่ตกยุค และบล็อกเชนก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางธุรกิจ  

เพราะการประยุกต์ใช้บล็อกเชน ไม่ได้ถูกจำกัดเฉพาะการใช้งานด้านการเงิน หรือการทำธุรกรรม แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบันทึก จัดเก็บข้อมูล และการตรวจสอบติดตามเพื่อความโปร่งใส และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารองค์กรยุคใหม่ รวมถึงการทำความรู้จักกับระบบนิเวศทางธุรกิจยุคใหม่ ที่ใช้บล็อกเชนเป็นกลไกสำคัญ แม้แต่ Social Network ระดับโลกอย่าง Facebook ก็ยังนำมาใช้งาน

ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ผู้บริหารของสององค์กร ได้ร่วมกันจัดแถลงความร่วมมือและแนะนำถึงสาระสำคัญของหลักสูตร ตลอดจนผู้บรรยาย อันประกอบไปด้วยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญที่ทรงคุณวุฒิและอยู่ในอุตสาหกรรมจริง

การแถลงข่าวครั้งนี้ประกอบด้วย 

– รศ.ดร.ธัชวรรณ กนิษฐ์พงศ์ คณบดี คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

– ปฐม อินทโรดม กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท สยาม ไอซีโอ จำกัด

– คณิต ศาตะมาน ซีอีโอ ไนท์ อะคาเดเมีย

– ปกรณ์ ลี้สกุล ซีอีโอฟินีมา

บทบาทของเทคโนโลยีบล็อกเชน ได้กลายเป็นหนึ่งกลไกสำคัญ ในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ยุคดิจิทัล หรือ Digital Transformation และภายใต้การเล็งเห็นประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ คณะบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมมือกับบริษัท SIAM ICO  บริษัทที่ปรึกษาและออกแบบการพัฒนาธุรกิจและการลงทุนด้านดิจิทัล โดยกำหนดเปิดหลักสูตรพิเศษ Blockchain for Enterprise Transformation เพื่อให้ความรู้และพัฒนาผู้บริหารขององค์กร ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีความตั้งใจ หรือสนใจที่จะพัฒนากลยุทธ์ด้านดิจิทัลให้กับองค์กร โดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นกลไกสำคัญ

นอกจากนั้น การแถลงความร่วมมือในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.จงสวัสดิ์ จงวัฒน์ผล รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน และให้ความเห็นในการสัมภาษณ์ในโอกาสนี้ด้วย


รศ.ดร.ธัชวรรณ กนิษฐ์พงศ์

รศ.ดร.ธัชวรรณ กนิษฐ์พงศ์ คณบดี คณะบริหารธุรกิจ  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

เป็นหนึ่งในเป้าหมายและความตั้งใจ ของ รศ.ดร.ธัชวรรณ  ซึ่งเพิ่งก้าวเข้ามารับตำแหน่งคณบดี ของคณะบริหารธุรกิจเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา  โดยเป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ ของผู้นำของคณะฯ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง disruption  และเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน AI, Blockchain ตลอดจน Fintech ที่คนไทยยังต้องการการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเป็นอย่างมาก

รศ.ดร.ธัชวรรณ ยังย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาเรื่อง บล็อกเชนเป็นหลักสูตรว่า โดยส่วนตัว คือต้องการพัฒนาหลักสูตรเหล่านี้อยู่แล้ว เมื่อได้คุยกับทาง SIAM ICO ซึ่งมีเป้าหมายที่ไปในแนวทางเดียวกัน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือ เพราะเรื่อง Blockchain มันเป็นภาพใหญ่ หลายคนรู้จัก Bitcoin  รู้จักคริปโตเคอเรนซี่ แต่ข้อเท็จจริงๆ แล้วบล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่สามารถประยุกต์มาทำอะไรได้มากกับองค์กรหรือสถาบัน ไม่ใช่เพียงออก Coin หรือ Currency เท่านั้น แต่บล็อกเชนทำอะไรได้มากกว่านั้น  แม้กระทั่งตอนนี้ เราได้พูดกันถึง Digital certificate หรือใบประกาศดิจิตอล ในบล็อกเชนที่ไม่สามารถปลอมได้ พูดถึงเงินที่ไม่สามารถปลอมได้ ซึ่งมันดีนะ และเชื่อว่าบล็อกเชน จะนำพาเราไปสู่สิ่งอื่นๆ อีกหลายๆเรื่องได้ อาทิ Supply Chain หรือ ระบบการจัดเก็บประวัติการรักษาพยาบาล หรือ เก็บข้อมูล Tourism ซึ่งต่อไปการใช้จะกว้างออกไปอย่างมาก”

“นอกจากประโยชน์ของบล็อกเชนที่กล่าวมา  เทคโนโลยีบล็อกเชน ยังสามารถประยุกต์ใช้ ในการพัฒนาองค์กรไปสู่ความเป็นดิจิทัลได้ อย่างที่เป็นกระแสอยู่ในขณะนี้คือเรื่อง Digital Transformation ซึ่งน่าสนใจมาก 

หลักสูตร Blockchain for Enterprise Transformation ที่กำลังจะเปิดร่วมกับ บริษัท SIAM ICO นี้ ถือได้ว่าเป็นที่แรกที่เปิดคอร์สวิชานี้ โดยเราจะเปิดเป็นสาธารณะ ให้บุคคลภายนอกเข้ามารับการอบรม หลังจากนั้นก็จะหลอมรวมวิชานี้เข้าไปอยู่ในหลักสูตร MBA ของทางนิด้าต่อไป ซึ่งเชื่อว่านักศึกษา จะให้ความสนใจและได้รับประโยชน์จากคอร์สนี้อย่างมาก”

คณบดีหญิงคนแรกของ NIDA Business School  อยากเชิญชวนให้ศิษย์เก่า ตลอดผู้บริหารองค์กร ของทั้งภาครัฐและเอกชนมาลงคอร์สนี้ ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับผู้เรียน ที่ต้องการความกระชับในเรื่องเวลา เพียง 3 วันใน 3 สัปดาห์ของเดือนสิงหาคม  โดยที่วันสุดท้ายของหลักสูตร จะจัดให้มีเวิร์กชอป โดยที่ทางนิด้าเรานำหลักของ Design Thinking เข้ามาผสมผสานในการจัดอบรม เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์ควบคู่ ทั้งในเรื่องบล็อกเชนและ Design Thinking ไปพร้อมๆกัน อีกด้วย

ปฐม  อินทโรดม

ปฐม  อินทโรดม กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท SIAM ICO  จำกัด กล่าวถึง ความเป็นมาของหลักสูตร Blockchain for Enterprise Transformation  เกิดจากคำถามที่ทั้งสยามไอซีโอ และนิด้าได้รับอยู่เสมอในช่วงปีที่ผ่านมาคือ เรื่องบล็อกเชน และ Digital Transformation  และเมื่อได้มีโอกาส ได้หารือถึงเป้าหมายและความเป็นไปได้ในเรื่องความร่วมมือ เพื่อพัฒนาเป็นหลักสูตรนี้เกิดขึ้นมา โดยผูกเอา 2 เรื่องไว้ด้วยกัน 

“ถ้าคุณสนใจเรื่องบล็อกเชน คุณจะได้เรื่อง Digital Transformation เป็นของแถม และคุณอาจจะพบว่า จะปรับเปลี่ยนองค์กรเป็นดิจิทัล ไม่ต้องใช้บล็อกเชนก็ได้ มีแนวทางมากมาย หรืออาจจะใช่ คุณก็ลุยต่อได้เต็มที่ ก็จะมีหลักสูตรอื่นๆ เพิ่มเติม ที่จะตามมาในอนาคตเจาะลึกเรื่องเหล่านี้ลงไป

หรือถ้าคุณสนใจเรื่อง Digital Transformation นอกจากจะได้รู้กระบวนการ  ยังมีเวิร์กช้อป ที่เราจะสอนเรื่องการปรับเปลี่ยนองค์กร ว่าต้องรู้จักแกนหลักขององค์กร องค์ประกอบภายนอกมีอะไรบ้าง มีกรณีศึกษา จากกรณีทั้งไทยและต่างประเทศ อะไรที่นำมาใช้ได้ และได้เรื่องบล็อกเชนเสริมเข้าไปด้วย ซึ่งบล็อกเชนคุณอาจจะรู้ เพื่อไปปรับกระบวนการทำงาน หรือไปใช้ในเรื่องการระดมทุนจะทำ STO ICO ต่อไปในอนาคตได้”

ปฐม เผยว่า หลักสูตรนี้เหมาะกับผู้บริหารองค์กรภาครัฐ และเอกชนตั้งแต่ขนาดกลางขึ้นไป ที่มีความตั้งใจจะพัฒนากลยุทธ์ด้านดิจิทัล ให้กับองค์กรโดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน เป็นหัวใจสำคัญ และที่รับทราบเรื่องบล็อกเชนและ Digital Transformation มาระยะหนึ่งแล้ว อยากรู้ว่าจะนำไปปรับใช้กับองค์กรของตนเอง ได้อย่างไร โดยเป็นหลักสูตร ที่เน้นในการถ่ายทอดความรู้ และการนำไปประยุกต์ใช้ ในโลกความเป็นจริงอย่างเต็มที่

“สิ่งที่ผู้เข้าร่วมอบรม จะได้รับกลับไปคือ “Digital Transformation คือเราพูดถึงภาพรวมของเทคโนโลยีทั้งหมด เจาะลึกเทรนด์ ที่จะมีผลกระทบในอนาคต สยามไอซีโอเราเชี่ยวชาญเรื่องไฮบริด  เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ตอนเวิร์กช้อป คุณรู้หรือไม่ว่า IOT มารวมกับบล็อกเชนได้ รถขนส่ง สามารถเอาเซนเซอร์ใส่เข้าไปวัดอุณหภูมิ มีจีพีเอสวัดว่าอยู่ที่จุดไหนแล้ว

บวกกับSmart Contact ของบล็อกเชน ทำให้ลูกค้าของคุณจ่ายเงินได้ทันที เมื่อรู้ว่าคุณขนอาหารไปส่งถึงเป้าหมาย โดยที่อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงจากที่กำหนดไว้ เป็นการเชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน”

การนำเทคโนโลยีหลายอย่าง มาประสานกัน จนเกิดโซลูชันเป็นเป้าหมายเบื้องต้น ที่คุณปฐมคาดหวังให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับกลับไป และหากสามารถมองไปไกลได้ ถึงการคิดแพลตฟอร์มดิจิทัลออกมาใช้ได้จริง ก็จะเป็นเป้าหมายสูงสุด ที่หลักสูตรนี้ต้องการ