Onlinenewstime.com : กกบ. ยันไม่เลื่อนมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 (TAS 32) แต่ผ่อนผันให้คงแสดงรายการ “หุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual Bond” เป็นส่วนหนึ่งของทุนต่อไปได้ ไม่เกิน 3 ปี
ขณะเดียวกัน ต้องเร่งบริหารจัดการหุ้นดังกล่าว ให้ตรงตามมาตรฐานการบัญชีโดยเร็ว เชื่อว่าส่งผลดีต่อการจัดอันดับความน่าเชื่อถือภาคธุรกิจ และสามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้น
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ที่ประชุมมีมติสำคัญ คือ ผ่อนผันให้บริษัท ที่ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) ที่มีการเสนอขาย และได้รับชำระค่าหุ้นกู้นั้นก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2562 แสดงรายการ เป็นส่วนหนึ่งของทุนต่อไปได้อีกไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ 1 มกราคม 2563”
“สำหรับมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 32 (TAS 32) เรื่อง การแสดงรายการเครื่องมือทางการเงิน ยังคงบังคับใช้ตามกำหนดเวลาเดิม คือ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยมาตรฐานการบัญชีฉบับนี้ จะให้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการแสดงรายการในงบการเงินของ ‘กลุ่มเครื่องมือทางการเงิน’ ทั้งหมด
สำหรับกรณีที่กิจการ มีการออกหุ้นกู้ซึ่งถือเป็น ‘เครื่องมือทางการเงิน’ ชนิดหนึ่งนั้น TAS 32 กำหนดให้กิจการผู้ออก ‘หุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน’ ต้องแสดงเป็น ‘หนี้สิน’ หรือ ‘ทุน’ ขึ้นอยู่กับภาระผูกพัน ที่จะต้องจ่ายชำระในอนาคต
ตัวอย่างเช่น แสดงเป็น ‘หนี้สิน’ หากเป็นหุ้นกู้ฯ ที่กิจการต้องจ่ายชำระคืนเงินต้นหรือดอกเบี้ย ก่อนการชำระบัญชีหรือก่อนเลิกกิจการ และแสดงเป็น ‘ทุน’ หากเป็นหุ้นกู้ฯ ที่กิจการชำระคืนเมื่อเลิกกิจการ เป็นต้น”
ปลัดก.พณ.กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบันมีบริษัทออก ‘หุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน’ ซึ่งมีข้อกำหนด ที่อาจจะตีความได้ว่า ผู้ถือหุ้นกู้มีสิทธิได้รับชำระคืนก่อนการชำระบัญชี หรือได้รับชำระคืนก่อนเลิกกิจการ โดยมาตรฐานการบัญชีปัจจุบัน บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ดังกล่าว สามารถแสดงรายการในงบการเงินเป็น ‘ทุน’ ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อ TAS 32 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 บริษัทต้องจัดประเภทรายการใหม่เป็น ‘หนี้สิน’ ในงบการเงินทันที เนื่องจากไม่เข้าลักษณะการแสดงรายการเป็น ‘ทุน’ ตาม TAS 32 อีกต่อไป
สถานการณ์ดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ทันที คือ ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพิ่มสูงขึ้น ผู้ออกหุ้นกู้อาจผิดเงื่อนไขทางการเงิน (Financial Covenant) จนอาจถูกปรับ ลดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ส่งผลให้การระดมทุน ทำได้ยากขึ้น และอาจประสบปัญหากระแสเงินสดในอนาคต”
“คณะกรรมการ กกบ. เล็งเห็นถึงผลกระทบข้างต้น จึงมีมติให้ออกแนวทางปฏิบัติ สำหรับช่วงเปลี่ยนผ่านมาตรฐานการบัญชี โดยผ่อนผันให้บริษัทที่ออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual Bond ที่มีการเสนอขายและได้รับชำระค่าหุ้นกู้ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2562 อาจเลือกแสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ทุน’ ต่อไปอีกได้ แต่ไม่เกิน 3 ปี นับจากวันที่ 1 มกราคม 2563
เพื่อให้บริษัทผู้ออกหุ้นกู้ มีเวลาเพียงพอ สำหรับการบริหารจัดการที่จำเป็น เช่น การเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดสิทธิฯ การไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดและออกหุ้นกู้ใหม่ทดแทน เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทที่เลือกแสดงรายการดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของ ‘ทุน’ ต้องเปิดเผยเหตุผลที่เลือกแสดงรายการเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ทุน’ และผลกระทบต่อทุกรายการในงบการเงิน หากต้องแสดงรายการดังกล่าวเป็น ‘หนี้สิน’ ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน”
ปลัดก.พณ.กล่าวทิ้งท้ายว่า “กกบ. คาดหวังว่า มาตรฐานการรายงานทางการเงินของไทย จะใช้เต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน การรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ หรือ IFRS : International Financial Reporting Standards ที่ใช้ในการจัดทำงบการเงิน เป็นมาตรฐานเดียวกันกับอีก 140 ประเทศทั่วโลก
เป็นการยกระดับมาตรฐาน การจัดทำรายงานทางการเงินของไทย และส่งเสริมให้รายงานทางการเงินของไทย มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใสในสายตาของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ไทย เป็นประเทศที่น่าเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจ เศรษฐกิจของประเทศ เติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รองรับการเปิดการค้าเสรีของโลก”