Onlinenewstime.com : การรุกเซกเมนต์ตลาดสาหร่ายอบกรอบ ด้วยจุดเด่น“ไม่ใส่ผงชูรส”เพื่อสุขภาพ นับว่าเป็นสินค้าเรือธงในเกมรุกชิงส่วนแบ่งตลาดสาหร่ายรวมของแบรนด์“สาหร่ายมาชิตะ” กอปรกับกลยุทธ์ Partnership Marketing เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ดังในธุรกิจอาหาร ออกรสชาติใหม่ มาหลายระลอก ถือเป็นแต้มต่อทำให้มาชิตะก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาดได้ แม้ว่าในช่วง 5 เดือนที่ผ่าน ที่เผชิญกับพิษโควิด-19 ภาพรวมตลาดนี้ติดลบถึง 25% ก็ตาม
ล่าสุด“มาชิตะ” ตอกย้ำความสำเร็จกลยุทธ์ Partnership Marketing โดยเปิดตัวแคมเปญ “มาชิตะ x ร้านดัง อร่อยปัง ยกกำลังสอง” ผนึกพันธมิตรร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีชื่อดัง “ซูกิชิ” (Sukishi) ดึงเมนูยอดนิยม “ซี่โครงย่าง หมักซอสเกาหลี” ลงซองวางขายทั่วประเทศ ก้าวสู่ผู้นำอันดับ 1 ในตลาดสาหร่ายอบ ด้วยส่วนแบ่ง 30% พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีเติบโต 40%
นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มการตลาดแบรนด์ (Chief Marketing Officer – Brand) บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ความสำเร็จของ “มาชิตะ” สาหร่ายเกาหลีคุณภาพมาตรฐาน เกรด A จากประเทศเกาหลี 100% ที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับตลาดสาหร่ายและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง โดยเปิดตัวรสชาติ แปลกใหม่ให้กับตลาดสาหร่าย และตอบโจทย์กับกระแสสุขภาพที่มาแรง ด้วยจุดขายที่โดดเด่น โดยทุกสินค้าเป็นสูตร 0% ผงชูรส (No Msg Added) แต่ยังคงไว้ซึ่งความอร่อยและสร้างความแตกต่างด้วยกลยุทธ์ Partnership Marketing หรือกลยุทธ์ Collaboration ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรในวงการธุรกิจอาหารแบรนด์ชั้นนำของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อาทิ บาร์บีคิว พลาซ่า (Bar B Q Plaza), บอนชอน ชิคเกน (BonChon Chicken) ผลักดันให้มาชิตะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดสาหร่ายอบสำเร็จครองส่วนแบ่ง 30% เพิ่มจากเมื่อปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งอยู่ที่ 24%
ตลาดสาหร่ายแบ่งตามเซกเมนต์ปี 2562
“สาหร่ายมาชิตะ” ยังคงชูกลยุทธ์ Partnership Marketing โดยล่าสุดผนึกกำลังกับ “ซูกิชิ” (Sukishi) ร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีชื่อดัง เปิดตัวสาหร่ายอบสไตล์เกาหลีรสชาติใหม่ “รสซี่โครงย่าง หมักซอสเกาหลี” เมนู Signature ยอดนิยมของร้าน ที่มีจุดเด่นของรสชาติซอสหมักสูตรเฉพาะซูกิชิ ผสานความกรอบอร่อยของสาหร่ายสไตล์เกาหลี มาชิตะทำให้ได้รสชาติที่มีและเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ปลุกตลาดสาหร่ายให้คึกคักในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยรสชาติที่สร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเฉพาะให้ลูกค้าได้ลิ้มลองความแปลกใหม่
สำหรับการเดินหน้าทำตลาดดังกล่าว ได้ให้ความสำคัญกับการตลาดร่วมกับพันธมิตร (Partnership Marketing) ระหว่างมาชิตะกับซูกิชิในครั้งนี้ ช่วยตอกย้ำมาชิตะในฐานะเป็นผู้ผลิตสาหร่ายสไตล์เกาหลีชั้นนำของประเทศ ผสานจุดแข็งร้านอาหารซูกิชิ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญอาหารเกาหลี ทำให้ แบรนด์มาชิตะมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและขยายฐานลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารสไตล์เกาหลีกลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะวัยรุ่นมัธยมถึงมหาลัยและวัยทำงานอายุระหว่าง 15-34 ปี และนับว่าเป็นการต่อยอดความสำเร็จอย่างต่อเนื่องหลังจากเมื่อปี 2561 มาชิตะร่วมมือกับบาร์บีคิวพลาซ่าทำตลาดสาหร่ายด้วยรสเบคอนย่างซอสบาร์บีคิวพลาซ่า
สาหร่ายอบมาชิตะสไตล์เกาหลีรสชาติใหม่ “ซี่โครงย่าง หมักซอสเกาหลี” จะวางขายตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าสินค้าจะหมด มาในขนาด 15 กรัม ราคา 39 บาท จำหน่ายผ่านเซเว่นอีเลฟเว่น(7-Eleven) ทุกสาขา, แอปพลิเคชัน Food Delivery ทุกช่องทางของร้านซูกิชิ และร้านปิ้งย่างซูกิชิทุกสาขา
“สำหรับภาพรวมตลาดสาหร่ายในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (เดือนม.ค.-พ.ค.2563) ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ภาพรวมอยู่ในภาวะเติบโตติดลบ 25%
แต่จากการสร้างสีสันให้กับตลาดอย่างต่อเนื่องของสาหร่ายมาชิตะเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวสาหร่ายรสชาติใหม่ “สาหร่ายอบสไตล์เกาหลี รสไก่ทอดซอยการ์ลิค” โดยจับมือกับร้านไก่ทอดเกาหลีชื่อดัง ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทั่วประเทศ ทำให้มาชิตะในกลุ่มสาหร่ายอบมียอดขายเติบโตจากเดิม 8.5% ผลักดันให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 18%”
ส่วนในปี 2563 มาชิตะวางเป้าหมายยอดขายสาหร่ายอบมีอัตราการเติบโต 40% และผลักดันให้มาชิตะก้าวสู่ผู้นำตลาดสาหร่ายอบด้วยส่วนแบ่ง 35% ขณะที่ส่วนแบ่งในตลาดสาหร่ายโดยรวมมาชิตะ มีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 18% จากเดิม 16.6% โดยมาชิตะยังคงเติบโตสวนกระแสทิศทางตลาดที่ยังคงอยู่ในภาวะติดลบ