onlinenewstime.com : ภาพรวมของตลาด “สแน็กสาหร่าย” (Seaweed Snack) ในบ้านเรา ที่มีมูลค่าถึง 3,031 ล้านบาท ถือว่าเป็น 1 ใน 3 ของเซกเมนต์ตลาดสแน็ก ที่มีการเติบโตสูงในอัตรา 5% อย่างต่อเนื่องติดต่อกันมาหลายปี
การแข่งขันในตลาดสแน็กสาหร่าย มีแบรนด์ที่กุมตลาดอยู่ 3 ค่ายหลัก คือ เถ้าแก่น้อย, มาชิตะ และ ซิลิโกะ
ที่ผ่านมา การแข่งขันด้วยกลยุทธ์การตลาด การใช้พรีเซ็นเตอร์ศิลปินชื่อดังเกาหลี ดูจะเป็นหัวหอกหลักในการสร้างแบรนด์และการรับรู้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบ และเป็นติ่งเกาหลี ได้เป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวของ แบรนด์ “มาชิตะ” สแน็กสาหร่าย ที่มีสายป่านยาว เพราะเป็น CASH COW ของค่ายเบียร์สิงห์ ที่เรียกว่าเป็นธุรกิจหรือสินค้า ที่เป็นตัวทำกำไรให้บริษัทได้ดี ล่าสุด แบรนด์ มาชิตะใช้งบมากกว่า 50 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมการตลาด ที่ครอบคลุมถึง 3 กลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน
กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์ เปิดตัวศิลปิน K-POP “พัคจีฮุน” อดีตสมาชิกบอยแบนด์ “วอนนาวัน” (WANNA ONE) มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักวัยรุ่นอายุ 12-18 ปิ ซึ่งเป็นฐานตลาดลูกค้าเดิมที่ตลาดสแน็กสาหร่ายใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นกลยุทธ์หลักในการทำตลาด
กลยุทธ์การออกสินค้าใหม่ ขยายฐานกลุ่มคนรักสุขภาพ ด้วยการปรับเป็นสูตร 0% ผงชูรส ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ และการปรับบรรจุภัณฑ์สินค้าใหม่ทั้งหมดให้มีสีสันโดดเด่น สะดุดตามากยิ่งขึ้น
กลยุทธ์ขยายตลาดต่างประเทศ สแน็กสาหร่าย “มาชิตะ” มองโอกาสตลาดนักท่องที่ยวจีนเป็นตลาดเป้าหมาย เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น พฤติกรรมการช้อปปิ้งของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ที่มาท่องเที่ยวในไทย มีกำลังในการซื้อสินค้าสูงมากและนิยมการซื้อของฝากประเภทขนมจากไทย
จุดเริ่มของนักท่องเที่ยวจีนที่คุ้นเคยกับแบรนด์มาชิตะ เรียกได้ว่า เป็นที่มาของเป้าหมายการสยายปีกไปสู่ตลาดส่งออกสแน็กสาหร่ายมาชิตะ ไปประเทศจีน โดยเริ่มนำร่องเข้าไปทำตลาดในช่องทางการขายหลัก อย่าง โมเดิร์นเทรด เทรดดิชั่นนอลเทรด และออนไลน์ เมื่อช่วงกลางปี 2561
จากนั้นเริ่มขยับขยายมาทำตลาดแบบจริงจัง โดยเปิดตัว ชานน สันตินธรกุล เป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในประเทศจีนเมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมา
สำหรับผลลัพธ์จากการเดินเกมการตลาดภายใต้ 3 กลยุทธ์หลักนั้น นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาด ธุรกิจนอนแอลกอฮอลล์ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด บอกว่าสำหรับแนวทางการทำตลาดผลิตภัณฑ์สาหร่าย “มาชิตะ” ของบริษัทในปี 2562 ได้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ โดยการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมปรับสูตรการผลิต
” มาชิตะ ถือเป็นแบรนด์เดียวในตลาดสาหร่ายที่ทุกผลิตภัณฑ์เป็นสูตร 0% ผงชูรส (Monosodium Glutamate) แต่ยังคงความอร่อย โดยใช้สาหร่ายเกรด A จากเกาหลี 100% ”
การปรับสูตรครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการทำให้ตลาดมีความตื่นเต้นแล้ว ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเทรนด์การรักสุขภาพที่ยังคงมาแรงและขยายตัวมากขึ้น
นายธิติพร บอกถึงการตั้งเป้าหลังจากเปิดตัวกิจกรรมการตลาดอย่างเต็มรูปแบบว่า จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 20% และจะเพิ่มยอดขายในปี 2562 จากปี 2561 ประมาณ 510 ล้านบาท เป็น 600 ล้านบาท รวมถึงเพิ่มสัดส่วนยอดขายที่มาจากตลาดนักท่องเที่ยวจีน จากสัดส่วน 4-5% เป็น 20% ในปีนี้ ขณะเดียวกันยอดขายจากตลาดส่งออกจากปี 2561 อยู่ที่ประมาณ 30-40 ล้านบาท ให้เป็น 100 ล้านบาท