
www.onlinenewstime.com : บีโอไอเผยยอดขอรับส่งเสริมการลงทุน ครึ่งแรกปี 2562 จำนวน 758 โครงการ มูลค่ากว่า 2.3 แสนล้านบาท เป็นการลงทุน ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายถึงร้อยละ 57 สอดรับยุทธศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ด้านยอดการลงทุนโดยตรง จากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท ญี่ปุ่นครองแชมป์อันดับ 1
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภาวะการส่งเสริมการลงทุนครึ่งปีแรกของปี 2562 (มกราคม-มิถุนายน) มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 758 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 707 โครงการ ขณะที่มีมูลค่าการลงทุนรวม 232,610 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 17 เนื่องจากในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ คือ โครงการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ โครงการลงทุน ที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายถึงร้อยละ 57 มูลค่ารวม 131,850 ล้านบาท สะท้อนถึงแนวโน้ม และทิศทางการลงทุน ที่สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยส่วนใหญ่ อยู่ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เกษตรและแปรรูปอาหาร เช่น กิจการดาต้าเซ็นเตอร์ กิจการเคเบิ้ลใต้น้ำ การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์อัตโนมัติ (Automation) เป็นต้น
นอกจากนี้ กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ เริ่มมีการขอรับการส่งเสริมเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน เช่น โครงการผลิตสารกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ สำหรับเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง โครงการวิจัยและพัฒนาเชื้อจุลินทรีย์ ในการผลิตน้ำผลไม้น้ำตาลต่ำ เป็นต้น
สำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวน 468 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ขณะที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น จากช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 109 ด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจาก 70,530 ล้านบาท เป็น 147,169 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุน จากประเทศญี่ปุ่นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่า 42,454 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของมูลค่า FDI ทั้งหมด ตามด้วยจีน 24,278 ล้านบาท สวิตเซอร์แลนด์ 11,443 ล้านบาท สิงคโปร์ 7,615 ล้านบาท และฮ่องกง 7,534 ล้านบาท
ทั้งนี้การขอรับการส่งเสริมการลงทุน ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีมูลค่ารวม 118,050 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 ของมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนทั้งหมด แบ่งเป็นจังหวัดชลบุรี 68,210 ล้านบาท ระยอง 40,310 ล้านบาท และฉะเชิงเทรา 9,530 ล้านบาท
นางสาวดวงใจ กล่าวว่า การส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การเติบโตของประเทศและเศรษฐกิจไทย โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2562 บีโอไออนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนรวม 717 โครงการ มูลค่ารวม 191,790 ล้านบาท ทั้งนี้ได้ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจโดยสร้างงานให้คนไทย 43,878 ตำแหน่ง ส่งเสริม ให้เกิดการใช้วัตถุดิบในประเทศ คิดเป็นมูลค่า 236,216 ล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่มเคมีภัณฑ์ พลาสติก และกระดาษ และคิดเป็นมูลค่าการส่งออกที่สร้างรายได้เข้าประเทศ 337,245 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ ยังได้ก่อให้เกิดการสร้างงาน ในส่วนภูมิภาคมากขึ้น เช่น ล่าสุดบีโอไอได้อนุมัติ ให้การส่งเสริมกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์ มูลค่าเงินลงทุน 1,500 ล้านบาท ตั้งโครงการที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ซึ่งโครงการดังกล่าว จะก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่งในพื้นที่ชายแดนภาคใต้