Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ร่วมกับ ธกส. ชวนคนไทยใจบุญ ช่วยน้องพิการได้อิ่มท้อง ช่วยชาวนามีรายได้

Onlinenewstime.com : มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ  องค์กรสาธารณประโยชน์ที่ดำเนินงานด้านการศึกษาสำหรับคนพิการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส.)  จัดโครงการ “ทำบุญรับปีเสือ… ช่วยชาวนา เลี้ยงคนพิการ”  เพื่อหาข้าวสารให้เพียงพอให้กับผู้พิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ รวมทั้งยังได้ช่วยเหลือชาวนาซึ่งขายข้าวสารโดยตรงถึงผู้บริโภคในราคายุติธรรม

เผย ทำบุญเพียงครั้งเดียวแต่ได้บุญถึงสองต่อ…  จึงขอเชิญชวนผู้ใจบุญทั่วประเทศร่วมบริจาคเงิน 300 บาท เพื่อซื้อข้าวสาร 10 กก. ธกส.ร่วมสมทบอีก 10 กก. ทันที ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายนนี้ โดยผู้บริจาคจะได้รับใบเสร็จจากมูลนิธิฯ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยถึงโครงการ “ทำบุญรับปีเสือ… ช่วยชาวนา เลี้ยงคนพิการ” ว่าได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)  เพื่อรณรงค์หาข้าวสาร สำหรับนักเรียนและนักศึกษาพิการของมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ให้ได้เพียงพอกับการบริโภคในระหว่างการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และฝึกอาชีพ 

เพื่อส่งเสริม และเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายข้าวสารของชาวนาไทย ให้กับผู้บริโภคโดยตรงในราคาที่เหมาะสม สร้างวิถีสังคมแห่งการแบ่งปัน และเห็นคุณค่าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของชาวนาไทย

“การสนับสนุนของ ธกส. ช่วยให้มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ สามารถช่วยเหลือให้คนพิการได้ต่อเนื่องในการพัฒนาทักษะทางการเรียนรู้ และฝึกอาชีพสู่การมีงานทำ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

นอกจากนี้ชาวนายังมีรายได้จากการขายผลิตผล และมีทุนในการทำนาอย่างต่อเนื่อง สามารถเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัวได้ และที่สำคัญสังคมเกิดการแบ่งปันและตระหนักถึงความสำคัญ ของสินค้าทางการเกษตรของชาวนาไทยมากขึ้น”

เป็นที่ทราบแล้วว่า มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการนั้น เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ด้านคนพิการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ที่จัดการด้านศึกษาเพื่อให้คนพิการสู่การมีงานทำที่มีคุณค่ามากว่า 40 ปีซึ่งเป็นโรงเรียนประจำและดูแลทุกเรื่อง อาทิ ที่พัก อาหาร อุปกรณ์การศึกษา การจัดการศึกษา และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งมีนักเรียน – นักศึกษาพิการและเจ้าหน้าที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ กว่า 800 คน ปัจจุบันผู้บริจาคลดน้อยลงด้วยสภาวะต่างๆ จึงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของนักเรียนพิการอย่างยากลำบาก จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากผู้มีจิตศรัทธาหรือผู้สนับสนุนในรูปแบบต่าง ๆ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวสารที่แต่ละปีใช้มากถึง 70 ตัน ดังนั้นโครงการ “ทำบุญรับปีเสือ… ช่วยชาวนา เลี้ยงคนพิการ” ในครั้งนี้จึงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้พิการให้ได้อิ่มท้อง มีกำลังใจการดำเนินชีวิตต่อไป

ด้านนายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) กล่าวว่า เป็นนโยบายของ ธกส. ที่ต้องการยกระดับชีวิตเกษตรกรไทยสู่สังคมที่ภาคภูมิ และมุ่งมั่นกับภารกิจพัฒนาชนบทภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

โดยเฉพาะการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรมีฐานะและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงมุ่งมั่นต่อพันธกิจที่มีต่อเกษตรกรอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกรฯ

ทั้งนี้การดำเนินโครงการ “ทำบุญรับปีเสือ…ช่วยชาวนา เลี้ยงคนพิการ” ในครั้งนี้เป็นการรณรงค์ให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมทำบุญในปีใหม่ 2565 โดยการบริจาคข้าวสารหรือบริจาคเงินซื้อข้าวสาร สำหรับการบริโภคของนักเรียนและนักศึกษาพิการที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ 

ซึ่งนอกจากจะทำให้มูลนิธิฯ มีข้าวสารที่เพียงพอสำหรับการดูแลคนพิการได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือชาวนา ให้มีช่องทางการจำหน่ายข้าวสารที่ส่งตรงถึงผู้บริโภคในราคายุติธรรม โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำบุญเพียงครั้งเดียวแต่ได้บุญถึงสองต่อ ทั้งช่วยให้คนพิการได้มีโอกาสทางการศึกษาสู่การมีอาชีพที่ยั่งยืน และช่วยให้ชาวนาให้มีรายได้อีกด้วย

ท่านสามารถเข้าร่วม โครงการ “ทำบุญรับปีเสือ…ช่วยชาวนา เลี้ยงคนพิการ” ได้ด้วยการบริจาคข้าวสารโดยตรงที่มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ จังหวัดชลบุรี  หรือจะร่วมบริจาคเงินเพื่อซื้อข้าวสารได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชีมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี 342-3-04066-0  

ซึ่งท่านบริจาคเงิน 300 บาท สามารถซื้อข้าวสารได้ 10 กก. และทาง ธกส.จะบริจาคข้าวสารสมทบให้อีก 10 กก. ทันที

ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 มิถุนายน 2565 นี้

ผู้มีจิตศรัทธาที่บริจาคเงินเพื่อซื้อข้าวสาร หรือบริจาคข้าวสารจจะได้รับใบเสร็จการซื้อข้าวสารจากมูลนิธิพระมหาไถ่ฯ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 

ส่วนผู้มีจิตศรัทธาสนใจร่วมสนับสนุนโครงการในด้านอื่น ๆ โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02 572 4042  ต่อ 8300 หรือ 089 936 7598

Exit mobile version