onlinenewstime.com : นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าว การจดทะเบียนธุรกิจ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือน เมษายน 2562 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนเมษายน
• จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจ ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ ในเดือนเมษายน 2562 จำนวน 5,944 ราย เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561 จำนวน 5,120 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 824 ราย คิดเป็นร้อยละ 16 และเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2562 จำนวน 6,876 ราย ลดลงจำนวน 932 ราย คิดเป็นร้อยละ 14
• ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 486 ราย คิดเป็น ร้อยละ 8 รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 387 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร จำนวน 163 ราย คิดเป็นร้อยละ 3
• มูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือนเมษายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2562 จำนวน 17,840 ล้านบาท ลดลงจำนวน 2,840 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16 และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561 จำนวน 36,362 ล้านบาท ลดลงจำนวน 21,362 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59
• ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุน ที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,285 ราย คิดเป็นร้อยละ 72.09 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท มีจำนวน 1,553 ราย คิดเป็นร้อยละ 26.13 รองลงมา คือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 93 ราย คิดเป็นร้อยละ 1.56 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 13 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.22
• ธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสม จำนวนธุรกิจตั้งใหม่สะสม ตั้งแต่เดือน ม.ค. – เม.ย. 62 มีจำนวน 26,694 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – เม.ย. 61) จำนวน 25,169 ราย โดยเพิ่มขึ้น จำนวน 1,525 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่ สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – เม.ย. 62 มีจำนวน 67,391 ล้านบาท ลดลง 29,802 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – เม.ย. 61) จำนวน 97,193 ล้านบาท
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเมษายน
• จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 985 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2562 จำนวน 1,075 ราย ลดลงจำนวน 90 ราย คิดเป็นร้อยละ 8 และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561 จำนวน 795 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 190 ราย คิดเป็นร้อยละ 24
• ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการ สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 106 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 58 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 และธุรกิจค้าสลาก จำนวน 31 ราย คิดเป็นร้อยละ 3 ตามลำดับ
• มูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนเมษายน 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 3,830 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2562 จำนวน 3,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 828 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28 และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2561 จำนวน 7,893 ล้านบาท ลดลงจำนวน 4,063 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51
• ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุน ที่มีจำนวนรายธุรกิจ เลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 686 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.64 รองลงมาคือช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 242 ราย คิดเป็นร้อยละ 24.57 ลำดับถัดไปคือช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 52 ราย คิดเป็นร้อยละ 5.28 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.51
• ธุรกิจเลิกสะสม จำนวนธุรกิจเลิก สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – เม.ย. 62 มีจำนวน 4,273 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 390 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – เม.ย. 61) จำนวน 3,883 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – เม.ย. 62 มีจำนวน 13,825 ล้านบาท ลดลง 12,585 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – เม.ย. 61) จำนวน 26,410 ล้านบาท
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนเมษายน
• ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 เม.ย. 62) ธุรกิจ ที่ยังคงดำเนินกิจการอยู่ ทั่วประเทศ จำนวน734,983 ราย มูลค่าทุน 16.63 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด / ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 186,155 ราย คิดเป็นร้อยละ 25.33 บริษัทจำกัด จำนวน 547,593 ราย คิดเป็นร้อยละ 74.50 และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,235 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.17
• ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่ มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 437,496 ราย คิดเป็นร้อยละ 59.52 รวมมูลค่าทุน 0.38 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.28 รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 212,669 ราย คิดเป็นร้อยละ 28.94 รวมมูลค่าทุน 0.69 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.17
รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 69,750 ราย คิดเป็นร้อยละ 9.49 รวมมูลค่าทุน 1.89 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.35 และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 15,068 ราย คิดเป็นร้อยละ 2.05 รวมมูลค่าทุน 13.67 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82.20 ตามลำดับ
แนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจ
จากการประเมิน อัตราการเติบโตของ GDP และแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ ทิศทางการประกอบธุรกิจ รวมไปถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ ตามฤดูกาล (Seasonal Trend) จึงคาดว่าในเดือนพฤษภาคม 2562 จะมีสถานการณ์ การจัดตั้งธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น จากเดือนเมษายน 2562 และมียอดสะสมทั้งปี (ม.ค. – พ.ค. 62) ไม่น้อยกว่า 32,000 ราย
การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว
• เดือนเมษายน 2562 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 38 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 18 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 20 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,891 ล้านบาท
• นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุนกว่า 2,197 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 825 ล้านบาท และจีน 4 ราย เงินลงทุน 342 ล้านบาท
• การเปรียบเทียบการลงทุนรายเดือน เมื่อเปรียบเทียบการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติในเดือนเมษายน กับเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนลดลง 17 ราย หรือประมาณร้อยละ 31 ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 907 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8
การให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนเมษายน 2562
DBD e – Filing การนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติ ในการยื่นงบการเงินประจำปี 2561 สำหรับนิติบุคคล ที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2561 จะต้องนำส่งงบการเงิน ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2562
โดยปีนี้กรมฯ ได้ขยายระยะเวลาการยื่นงบการเงิน ผ่านระบบ DBD e-Filing ออกไปอีก 7 วัน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ไปจนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2562 มีนิติบุคคล ที่ต้องนำส่งงบการเงินจำนวน 666,798 ราย และขณะนี้ ได้นำส่งงบการเงิน ผ่านระบบ DBD e-Filing คิดเป็นร้อยละ 90 ของนิติบุคคล ที่นำส่งงบการเงินแล้ว
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย กรมฯ จึงขอความร่วมมือ ให้นิติบุคคล ที่ยังไม่ได้นำส่งงบการเงิน เร่งนำส่งงบการเงิน ผ่านระบบ DBD e-Filing เพื่อประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมทั้งประหยัด ต้นทุนการใช้กระดาษ และที่สำคัญ สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ ในการวิเคราะห์สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ได้ทันท่วงที
e- Secured จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการจดทะเบียน สัญญาหลักประกันทางธุรกิจ แบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร ผ่าน Web Application และ Web Service แบบ Host to Host
ชำระค่าธรรมเนียม ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และออกใบเสร็จรับเงิน แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) โดยเจ้าพนักงานทะเบียน ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) รวมถึงสามารถตรวจค้นข้อมูล หลักประกันทางธุรกิจเบื้องต้น ผ่าน เว็บไซต์ หรือผ่านระบบ mobile application (iosและ android) บนสมาร์ทโฟน
ในเดือนเมษายน 2562 กรมได้จัดสัมมนา สร้างการรับรู้ และส่งเสริมการนำต้นไม้ มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ให้แก่ เกษตรกร ผู้สนใจเพิ่มมูลค่าหลักประกันทางธุรกิจ ณ จังหวัดราชบุรี มีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 245 ราย
และจัดกิจกรรม การลงพื้นที่เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่น ให้กับผู้รับหลักประกัน ที่จะรับไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ณ บริษัท สยามฟอเรสทรี จำกัด (ธุรกิจในเอส ซีจี แพคเกจจิ้ง) โรงงานวังศาลา จังหวัดกาญจนบุรี และเยี่ยมชมสวนป่ายูคาลิปตัสของเกษตรกร ณ อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
e-Registration การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์
ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 – 30 เมษายน 2562 มีการยืนยันการใช้งาน (Activate) จำนวน 38,493 ราย รับจดทะเบียน 13,997 ราย ซึ่งกรมได้มีการเตรียมการ พัฒนาระบบ ให้อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ทั้งด้านการยืนยันตัวตนนิติบุคคล และการใช้ระบบงาน
รวมถึงการเชื่อมโยง เพื่อสร้างความพร้อม ในการดำเนินธุรกิจให้แก่ SME ทั้งด้านการเงินและซอฟแวร์ และเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ได้ให้บริการ สำเนาเอกสาร ทะเบียนนิติบุคคล รูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ของนิติบุคคล ที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration
การบริการหนังสือรับรองข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ และผลักดันการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ยกระดับ การเป็นหน่วยงานรัฐบาลดิจิทัล โดยการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) มาให้บริการ โดยบริการ e-Service การบริการขอหนังสือรับรอง ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งขอรับเอกสารได้ผ่านช่องทาง Walk in / EMS / Delivery การออกหนังสือรับรอง รูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Certificate File) และได้ขยายการให้บริการ สู่การบริการหนังสือรับรอง การประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ และสมาคมการค้า หนังสือรับรองภาษาอังกฤษ
ทั้งนี้ การขอรับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากผ่านทาง เวปไซด์ แล้ว สามารถขอรับบริการผ่านทาง Application DBD e- Service ได้ทั้งระบบ Android และ IOS
DBD e-Accounting โปรแกรมบัญชีเพื่อช่วยเหลือ SMEs
กรมได้ดำเนินการแจก“โปรแกรม e-Accounting for SMEs” ช่วยเหลือ SMEs สามารถบริหารจัดการร้านค้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการบันทึกข้อมูลซ้ำซ้อน ลดระยะเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายทางธุรกิจ
สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ทาง Play store ซึ่งมีการพัฒนาซอฟแวร์บัญชี เชื่อมต่อกับการนำส่งงบการเงิน ทางระบบ DBD e-Filing ผ่านทาง DBD Connect ซึ่งเป็นการร่วมกับ ผู้พัฒนาซอฟแวร์บัญชี เพื่อเชื่อมโยงระบบงานบัญชีเข้าสู่งบการเงิน ทางออนไลน์ได้โดยทันที ขณะนี้มีอยู่จำนวน 15 ราย
Total Solution for SMEs
การขับเคลื่อน SMEs ไทย ด้วยนวัตกรรมออนไลน์ โดยส่งเสริมให้ธุรกิจ เข้าถึงเทคโนโลยีทางการบัญชี และบริหารจัดการร้านค้า ได้โดยง่าย ให้ได้รับข้อมูล ในการบริหารจัดการธุรกิจ แบบถูกต้อง ครบวงจร เปลี่ยน Traditional SMEs เป็น Smart SMEs
ซึ่งกรมได้รวบรวมโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง กับการบริหารจัดการทั้ง 3 ภาคส่วนไว้ด้วยกันคือ โปรแกรมสำนักงาน (Office) โปรแกรมหน้าร้าน (POS) โปรแกรมบัญชี online (Cloud Accounting) โดยผู้ประกอบการ สามารถจัดทำบัญชีเบื้องต้นได้เอง ก่อนส่งข้อมูลให้ผู้ทำบัญชีตรวจสอบ โดยขณะนี้เปิดให้ SMEs ได้สมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
DBD Business Data Warehouse กรมได้พัฒนาระบบสารสนเทศ ให้มีความสมบูรณ์หลากหลาย และสามารถจัดทำผลวิเคราะห์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล พร้อมทั้งนำข้อมูลธุรกิจ ไปสนับสนุนการตัดสินใจ ในการประกอบธุรกิจ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
เมื่อเมษายน 2562 DBD Business Data Warehouse ได้รับเลือกเป็น Champion ติดลำดับ 1 ใน 5 จากการเข้าร่วมประกวด ในรายการ WSIS Project Prizes 2019 ในหมวดที่ 3 (Category 3 : Access to Information and knowledge) ซึ่งจัดโดย สหภาพโทรคมนาคมนานาชาติ (International Telecommunication Union : ITU) และองค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN)