“อีลอน มัสก์” เผยเหตุผลซื้อกิจการทวิตเตอร์ ต่อผู้ซื้อโฆษณา

Onlinenewstime.com : ขณะที่ข่าว “อีลอน มัสก์” ซื้อกิจการ ทวิตเตอร์บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ สัญชาติสหรัฐอเมริกา ด้วยราคา 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ แพร่สะพัดไปทั่วโลกนั้น ในวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ปรากฏข้อความ จากทวิตเตอร์ “อีลอน มัสก์” สื่อสารถึงผู้ลงโฆษณาในทวิตเตอร์ โดยมีเนื้อหาใจความ ว่า

” ผมต้องการที่จะแบ่งปันแรงจูงใจส่วนตัวที่เป็นเหตุผลในการเข้าถือหุ้น Twitter มีการคาดเดามากมายถึงสาเหตุที่ผมซื้อ Twitter และความคิดต่างๆนาๆที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการคาดเดาที่ผิดทั้งหมด เหตุผลที่ผมเข้าซื้อหุ้น Twitter ก็เพราะว่ามันเป็นสิ่งสำคัญของอารยธรรมในอนาคตที่ต้องมีจุดศูนย์กลางของดิจิทัล ที่ซึ่งความเชื่อที่หลากหลายสามารถนำมาถกเถียงกันได้อย่างมีอารยธรรม โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง

ปัจจุบันนี้มีอันตรายอย่างมากที่จะทำให้โซเชียลมีเดียแตกออกเป็นฝั่งขวาสุดโต่ง และฝั่งซ้ายสุดโต่ง ซึ่งจะสร้างความเกลียดชังและแบ่งแยกสังคมของเรามากยิ่งขึ้น

การไล่ล่าจากการตามคลิกอย่างไม่หยุดยั้ง และสื่อแบบดั้งเดิมที่ส่วนใหญ่ก็ไปช่วยเติมเชื้อไฟ และตอบสนองความต้องการที่สุดขั้วในโซเชียลมีเดีย

เพียงเพราะความเชื่อว่าจะนำมาซึ่งรายได้ แต่จากการกระทำเช่นนั้น โอกาสในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็จะสูญเสียไป

ผมยังมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การโฆษณาเมื่อทำอย่างถูกต้อง จะสามารถสร้างความพึงพอใจ ความบันเทิง และให้ข้อเท็จจริงกับผู้คน การโฆษณาเป็นสิ่งที่สื่อให้เห็นถึงบริการ ผลิตภัณฑ์ หรือการรักษาพยาบาลที่เราไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง แต่เป็นสิ่งที่คุณต้องการ และเพื่อจะให้ความเชื่อนี้เป็นจริง

การโฆษณาใน Twitter จะต้องเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้คนให้มากที่สุด โฆษณาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องก็คือสแปม แต่โฆษณาที่มีความเกี่ยวข้องสูงต่างหากที่เป็นคอนเทนต์ที่แท้จริง! โดยพื้นฐานแล้ว Twitter มุ่งมั่นที่จะเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของคุณ และทำให้องค์กรของคุณเติบโต ผมขอขอบคุณไปถึงทุกคนที่ร่วมงานกับเรา และขอโอกาส ให้เราสร้างสิ่งที่พิเศษสุดร่วมกัน”

คงต้องรอดูจากนี้ไป หลังเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนมีนาคม 2549 เปลี่ยนเจ้าของ มาอยู่ในมือนักธุรกิจและนักลงทุนชาวอเมริกัน ที่ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกด้วยทรัพย์สินทั้งสิ้น 185 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนี้ไปนั้น ทวิตเตอร์ จะเปลี่ยนไปอย่างไร ต้องติดตาม…….