fbpx
News update

เทสโก้โลตัส จับมือกระทรวงทรัพยฯพร้อมภาคีภาคเอกชน ตั้งเป้าลดขยะอาหารลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 ตาม UNSDG

Onlinenewstime.com : เทสโก้ โลตัส ร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหอการค้าไทย ขับเคลื่อนการลดขยะอาหารให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยจัดงานประชุม 2019 Thailand’s Annual Conference on Food Waste ตั้งเป้าหมายเพื่อลดขยะอาหารให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี ค.ศ. 2030 พร้อมสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทุกภาคส่วนในห่วงโซ่อาหาร ทั้งภาคการผลิต ธุรกิจจำหน่ายอาหาร ร้านค้าปลีก โรงแรม ภัตตาคาร ไปจนถึงระดับครัวเรือน ตลอดจนภาคประชาสังคม ภาครัฐ และนักวิชาการ ร่วมระดมสมองและแสดงเจตนารมย์แก้ปัญหาขยะอาหารอย่างเป็นรูปธรรม

หลังจากที่ในปี พ.ศ. 2560 เทสโก้ โลตัส ได้ประกาศเจตนารมณ์ในการเป็นผู้นำลดขยะอาหารในประเทศไทย โดยเริ่มจากการลดปริมาณขยะอาหารภายในธุรกิจค้าปลีกของตนเองตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมถึงบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมด แต่ยังสามารถรับประทานได้ผ่านโครงการ “กินได้ไม่ทิ้งกัน” หลังจากนั้นได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ในการขยายผลการลดขยะอาหาร ด้วยการเป็นธุรกิจค้าปลีกแรกในประเทศไทยที่วัด และเปิดเผยข้อมูลขยะอาหารภายในธุรกิจของตนเองอย่างโปร่งใส เมื่อเดือนกันยายน 2562

ด้วยวิกฤตขยะอาหารที่ส่งผลอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และการเสียโอกาสทางสังคม เทสโก้ โลตัส ได้เดินหน้าขยายผลผลักดันการลดขยะอาหารในประเทศไทยให้เป็นวาระแห่งชาติ ด้วยการจัดงานประชุมประจำปี 2019 Thailand’s Annual Conference on Food Waste ภายใต้ธีม Target, Measure, Act: A Recipe for Success เพื่อเป็นเวทีแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ ในการลดขยะอาหาร ภายใต้กรอบการทำงานระดับนานาชาติ แก่ผู้เข้าร่วมงานที่มาจากทุกภาคส่วนของห่วงโซ่อาหาร

นอกจากนั้นยังได้ร่วมกับหอการค้าไทย ในการประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อน ให้เครือข่ายสมาชิกหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ซึ่งมีสมาชิกทั่วประเทศรวมกว่า 120,000 ราย มาร่วมกันลดขยะอาหาร และสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ในฐานะธุรกิจค้าปลีกที่จำหน่ายอาหารในปริมาณมาก เทสโก้ โลตัส ตระหนักถึงความรับผิดชอบของในการลดขยะอาหารภายในธุรกิจของเราเอง แต่เหนือไปกว่านั้น ยังมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนการลดขยะอาหารให้เกิดขึ้นได้ในวงกว้างขึ้น

“เนื่องจากเราอยู่ตรงกลางของห่วงโซ่อาหาร ระหว่างเกษตรกร ผู้ผลิตอาหาร ผู้ประกอบธุรกิจอาหาร และผู้บริโภค กลุ่มเทสโก้ ได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในการลดปริมาณขยะอาหารภายในธุรกิจของเราเองลงครึ่งหนึ่งภายในปี ค.ศ. 2030

นอกจากนั้นยังมีเป้าหมายช่วยให้ประเทศที่เราประกอบธุรกิจอยู่ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย สามารถลดปริมาณขยะอาหารได้ลงครึ่งหนึ่ง ภายในปี ค.ศ. 2030 เช่นกัน ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนข้อ 12.3 จึงเป็นที่มาของความพยายามของเรา ในการเป็นผู้นำขับเคลื่อนการลดขยะอาหาร ให้เป็นวาระแห่งชาติ และขยายผลครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อาหารในประเทศไทย”

เพื่อขับเคลื่อนการลดขยะอาหารภายในธุรกิจของเราเอง กลุ่มเทสโก้ ใช้กรอบการทำงาน Target, Measure, Act ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระดับสากล นั่นคือ การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและประกาศให้เป็นสาธารณะ (Target) การวัดผลอย่างต่อเนื่องและเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส (Measure) และการลงมือทำเพื่อลดปริมาณขยะอาหารให้ได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ (Act) ซึ่งเป็นหัวใจหลักของงานประชุมประจำปีครั้งนี้

เพราะเราเชื่อว่าการลดขยะอาหารที่ได้ผล จำเป็นต้องเริ่มจากพื้นฐานที่ถูกต้องและมีการทำงานที่เป็นระบบ นอกจากทีมงาน เทสโก้ โลตัส แล้ว ยังมีผู้แทนจากองค์กรอื่นๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ความสำเร็จ ความท้าทาย และทางออก ในการบริหารจัดการและลดขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการดำเนินงานเก็บข้อมูล และการจัดการเรื่องการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ซึ่งเราได้ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้และให้ความร่วมมือกับสหประชาชาติมาโดยตลอด

ในอนาคตประเทศไทยอาจจะต้องมีแผนปฏิบัติการหรือ Road Map เพื่อกำหนดมาตรการและเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับแต่ละภาคส่วน เรื่องของขยะอาหารเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ กระทบหลายประเด็น

นอกเหนือจากประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของการจัดการขยะ หรือการลดก๊าซเรือนกระจก แต่เกี่ยวข้องถึงประเด็นอื่น ๆ เช่น ความมั่นคงทางอาหาร การขจัดความหิวโหย สุขภาพอนามัยของประชาชน และการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ต้องมีการร่วมกันทำงานกับหลายกระทรวง และที่สำคัญความร่วมมือกับภาคเอกชน

ผมขอแสดงความชื่นชมทาง เทสโก้ โลตัส ที่เป็นผู้นำในด้านการจัดการขยะอาหารของทางภาคผู้จำหน่ายในประเทศไทย การจัดงานประชุมในครั้งนี้ รวมถึงการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชน จะนำไปสู่การขับเคลื่อนวาระการลดขยะอาหารให้เป็นไปอย่างมีระบบ แบบแผน และขยายวงกว้างมากขึ้น ไปสู่ภาคส่วนอื่นๆอีกต่อไป