Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

เนสท์เล่ทุ่ม 5 พันล้านบาท เปิดโรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ รับกระแสตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตสูง

โรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์

Onlinenewstime.com : บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ประกาศเปิดโรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ แห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง โดยใช้เทคโนโลยีสุดล้ำระดับโลกในการผลิตอาหารแมวชนิดเปียกคุณภาพระดับพรีเมียม เพื่อรองรับตลาดในประเทศไทย และส่งออกไปยังต่างประเทศ

เทรนด์โลกในการมองหาสัตว์เลี้ยงเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวกำลังมาแรง ทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการอาหารระดับพรีเมียมสำหรับสัตว์เลี้ยง พุ่งสูงขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค โรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ แห่งใหม่นี้ จะเข้ามารองรับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพสูงและมีโภชนาการที่ดีเยี่ยมให้กับเนสท์เล่
 
โรงงานใหม่ในระยองนี้ ได้รับการออกแบบให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างจุดแข็งให้เนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ ในเซกเมนต์อาหารแมวชนิดเปียกแบบซอง ซึ่งเป็นเซกเมนต์สำคัญของบริษัท

โดยจะผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ เพียวริน่า วัน® โปรแพลน® เฟลิกซ์® และ แฟนซี ฟีสต์® เพื่อรองรับตลาดในประเทศไทย และจะส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา (AOA) โรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ แห่งใหม่ จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตให้กับเนสท์เล่ พร้อมตอกย้ำจุดแข็งของประเทศไทยในการเป็นฐานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูงที่สำคัญ

นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า “ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมพิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ของเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ ที่ระยองในวันนี้ ประเทศไทย นับเป็นประเทศที่มียุทธศาสตร์ที่ตั้งเหมาะสมอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบคุณภาพสูงที่เข้าถึงได้ง่าย

สามารถขนส่งผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่าง ๆ ในโซนเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา (AOA) ได้สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในภูมิภาคอาเซียน ที่เป็นตลาดที่กำลังมีการเติบโตและมีศักยภาพสูงสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง

เนสท์เล่ใช้งบลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาทสร้างโรงงานเพียวริน่าแห่งใหม่ เพื่อตอกย้ำพันสัญญาระยะยาวของบริษัทในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และสร้างโอกาสการจ้างงานให้กับชุมชนในท้องถิ่น

นอกจากนี้ การลงทุนยังสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ ในการส่งเสริมให้ผู้คนและสัตว์เลี้ยงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและมีสุขภาพที่ดีขึ้น”

นายฌ็อง กรูน็องวาลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ ประจำภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา กล่าวว่า “โรงงานแห่งใหม่ของเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ จะเป็นฐานการผลิตหลักของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแมวชนิดเปียกแบบซองของเรา

สำหรับตลาดในไทยและตลาดหลัก ๆ ในภูมิภาคเอเชีย โอเชียเนีย และแอฟริกา รวมถึงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

โดยเราจะผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ซึ่งเป็นประเทศที่ทุกคนรู้จักในเรื่องมาตรฐานระดับสูง รวมถึงข้อกำหนดที่ต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีที่สุด การปฏิบัติตามกฎระเบียบของญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด และตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคญี่ปุ่นได้ แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงานเพียวริน่าแห่งใหม่นี้มีคุณภาพสูง ซึ่งจะมีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน และตลาดที่สำคัญอื่น ๆ ตามมาตลอดปีนี้”

นายจูเซปเป ปาสกวาลินี ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าวเสริมว่า “คนรักแมวสามารถไว้วางใจในผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ล้ำสมัยในโรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ แห่งใหม่นี้

โดยเรามีการวิจัยและพัฒนารอบด้าน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารแมวคุณภาพสูงที่แมวจะชื่นชอบ เราใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ มีการศึกษาเชิงลึก เพื่อทำความเข้าใจความต้องการด้านโภชนาการของแมว และมีกระบวนการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดที่สุด

สอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่เคร่งครัด ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า ผลิตภัณฑ์ของเราจะเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพสัตว์ มีรสชาติอร่อย และเป็นที่โปรดปรานของสัตว์เลี้ยง”

“ด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยของโรงงานเนสท์เล่ เพียวริน่า เพ็ทแคร์ แห่งใหม่ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 58.67 ไร่ หรือ 93,872 ตร.ม. เราจะเดินหน้าขับเคลื่อนพันธสัญญาด้านความยั่งยืนของเนสท์เล่ เพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีขึ้นให้กับสัตว์เลี้ยงและผู้คน

รวมทั้งการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของเราให้สามารถนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ภายในปี 2025 การนำเทคโนโลยีอัตโนมัติล่าสุดมาใช้ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิต และการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อลดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 

ทั้งนี้ โรงงานใหม่ยังใช้เทคโนโลยีขั้นสูงล้ำสมัย มาพร้อมกับระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดดเด่นด้วยไลน์การบรรจุผลิตภัณฑ์ความเร็วสูงด้วยหุ่นยนต์ ระบบหุ่นยนต์ขนส่งอัตโนมัติ AGV (Automated Guided Vehicle) และหุ่นยนต์บรรจุผลิตภัณฑ์ด้วยความเร็วสูงโดยสามารถบรรจุผลิตภัณฑ์ได้มากกว่า 720 ซองต่อนาที” นายจูเซปเป กล่าวเสริม

Exit mobile version