fbpx
News update

เปิดโมเดลความสำเร็จของ “ปิยจิต รักอริยะพงศ์” พา SAPPE ฝ่าวิกฤตช่วงโควิดและความท้าทาย นำแบรนด์ไทยสู่ Global Brand กับเป้าหมาย 1 หมื่นล้านในปี 69

Onlinenewstime.com : ซีอีโอหญิงแกร่งแห่ง SAPPE เผยโมเดลธุรกิจหลังผ่านวิกฤติโควิด-19 และความผันผวนต่างๆ จนสามารถดันผลงานเติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ ทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกัน 3 ไตรมาสตั้งแต่ต้นปี ย้ำรายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% มั่นใจเป้าหมาย  Triple Growth เติบโต 3 เท่าตัวแตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 69 ไม่ไกลเกินเอื้อม

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกต้องรับมือกับภาวะโรคระบาด สงคราม ภัยธรรมชาติ และความผันผวนทางเศรษฐกิจที่กระทบเป็นวงกว้าง

เซ็ปเป้ก็ได้รับผลกระทบทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลจากการล๊อคดาวน์ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น หรือปัญหาเรื่องตู้คอนเทนต์เนอร์และค่าระวางเรือช่วงต้นปี

แต่ด้วยความมุ่งมั่นของทีมงานและความแข็งแกร่งของ Business Partners ที่มีอยู่ทั่วโลก จึงสามารถทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาสามารถสร้างผลการดำเนินงาน All Time High ติดต่อกัน 3 ไตรมาส

จากการบุกตลาดใน 98 ประเทศ มีผลงานโดดเด่นในประเทศหลักๆ อย่าง เกาหลีใต้  ฝรั่งเศส ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ทวีปยุโรป และตะวันออกกลาง เป็นต้น โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ ที่แบรนด์โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) ได้เป็นเครื่องดื่มอันดับ 1

จึงต่อยอดความสำเร็จด้วยการออกแคมเปญการตลาดกับ Global Influencer สุดฮิตอย่างวง “บีทีเอส” (BTS) และยังส่งโมกุ โมกุ ให้เป็นแบรนด์ Lifestyle เจาะกลุ่ม Gen Z ทั่วโลกผ่าน “ZEPETO” แพลตฟอร์ม Metaverse ใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย

ขณะที่ตลาดในประเทศ แม้การแพร่ระบาดโควิด-19 จะกดดันภาพรวมเศรษฐกิจ แต่ยังสามารถคิดค้นและพัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ โดยออกบิวติ ชอท สติกซ์ (Beauti Shot Stix) ชอทเข้มข้นแบบซองดูดรายแรกของไทย สไตล์เกาหลี 2 สูตร คือ“คอลลา-ซี” และ“อิมมู-ซี” และร่วมกับ Dek-D เปิดตัวเครื่องหอมสมุนไพร “สูดสุด” (Sood Sud) และ “ลูกอม Limitless” แก้ Pain Point ของเหล่านักเรียนนักศึกษา

นอกจากนี้ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมายังเขย่าวงการเครื่องดื่มและวงการบันเทิงครั้งสำคัญ ด้วยการจับมือกับ ‘บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์’ จัดตั้งบริษัท WOPE ทำตลาดรูปแบบใหม่ ‘Eatertainment’ ส่งมอบความบันเทิงของเวิร์คพอยท์ผ่านสินค้านวัตกรรมจากเซ็ปเป้ ซึ่งเป็นการใช้ความเชี่ยวชาญของแต่ละฝ่ายมาต่อยอด และขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างยิ่งขึ้น

และอีกก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน เซ็ปเป้ได้ประกาศแผนธุรกิจมุ่งสู่ Global Brand อย่างชัดเจน ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้แบบ Triple Growth แตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2569

ซึ่งเป็นการเปิดเผยกลยุทธ์ระยะยาวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจะสร้างการเติบโตจากธุรกิจ 4 ส่วน ได้แก่ ตลาดต่างประเทศ ตลาดในประเทศ ออลโคโค่ และการทำ M&A ซึ่งจะมุ่งเน้นสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งทั้งในตลาดเดิมและตลาดใหม่

“จากวันที่เราประกาศแผน 5 ปี ในวันนี้นับว่าเซ็ปเป้ยังเดินทางตามแผนที่วางไว้ได้อย่างน่าพอใจ การสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศแบบก้าวกระโดด นอกจากความแข็งแกร่งของ Business Partners คุณภาพที่มีอยู่ทั่วโลกแล้ว ต้องชื่นชมทีมงานฝ่ายผลิตของเราที่สามารถบริหารจัดการ ผลิต และส่งมอบสินค้าคุณภาพรองรับความต้องการของลูกค้าทั่วโลกได้ตลอดช่วงที่ผ่านมา ผลงานทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

แต่เพราะเราเชื่อมั่นว่า เราจะทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นผ่านจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์ของพวกเรา สินค้าเซ็ปเป้ทุกขวด จึงอัดแน่นไปด้วยคุณภาพที่ลูกค้าทั่วโลกสัมผัสได้

ดังจะเห็นได้จากการที่เซ็ปเป้ได้รับการจัดอันดับให้เป็น Best Under A Billion 2022 จากนิตยสาร Forbes Asia ซึ่งเป็น 1 ใน 13 บริษัทมหาชนจากประเทศไทย ที่ได้รับการจัดอันดับประจำปีนี้ สะท้อนถึงความสามารถในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่มีความท้าทายจากวิกฤตต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ทั่วโลก และยังสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้

นอกจากนี้ ยังได้รับการคัดเลือกเป็น ‘หุ้นยั่งยืน’ หรือ Thailand Sustainability Investment (THSI) 2022 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และรางวัลจาก UN Women 2022 Thailand WEPs Awards ซึ่งเป็นงานประกาศรางวัลหนึ่งเดียวในไทยและเอเชียแปซิฟิก โดยองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (UN Women) ร่วมกับสหภาพยุโรป (EU) ในสาขาการตลาดที่คำนึงถึงมิติทางเพศ (Gender-Responsive Marketplace)

เป็นการตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความเสมอภาคของทุก Stakeholder ตลอดห่วงโซ่อุปทานของเซ็ปเป้อีกด้วย ด้วยปณิธานและแนวทางการดำเนินงานทั้งหมดที่กล่าวมา จึงมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้เซ็ปเป้เป็น Global Brand และเติบโตแบบ Triple Growth แตะ 10,000 ล้านบาท ภายในปี 2569 อย่างแข็งแกร่งได้แน่นอน” นางสาวปิยจิต กล่าว