นายแจ็ค หม่า (Jack Ma) และคณะผู้บริหารกลุ่มบริษัทอาลีบาบา (Alibaba Group) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล
พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรียินดีที่กลุ่มบริษัทอาลีบาบาให้ความเชื่อมั่นและร่วมมือกับไทย
โดยไทยเชื่อมั่นว่า แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ของอาลีบาบาจะช่วยสร้างโอกาสด้านการพัฒนา ตามแนวนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการ EEC ที่สามารถเชื่อมโยงไปแนวคิดหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางของจีน
นายกรัฐมนตรียังได้สอบถามถึงแนวโน้มการค้าการลงทุนของบริษัทในต่างประเทศ ภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง พร้อมกล่าวว่าเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพและเติบโต
รวมทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายต่างๆ ที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุนสามารถรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลถือเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาใช้ในการขับเคลื่อนการปฏิรูป และเป็นกุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยไปสู่เป้าหมาย
ซึ่งไทยยินดีที่อาลีบาบาวางแผนลงทุนและมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการ SMEs
รวมทั้งตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านการค้า E-Commerce โดยถือเป็นโอกาสอันดีที่ทางอาลีบาบาจะช่วยแบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เป็นประโยชน์เพื่อส่งเสริม SMEs และผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยด้วย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยยังมีการท่องเที่ยวแนวใหม่ ตามแนวคิด Thailand +1 หากสามารถจับคู่การท่องเที่ยวในมณฑลต่างๆ ของจีนได้นั้น จะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าระหว่างกันได้มากยิ่งขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย
ด้านผู้บริหารกลุ่มบริษัทอาลีบาบากล่าวว่า ไทยถือเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยบริษัทมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก จะเห็นได้จากการแลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ (MOUs) ระหว่างกลุ่มบริษัทอาลีบาบากับหน่วยงานต่าง ๆ ในการดำเนินโครงการที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยในหลากหลายมิติ จำนวน 4 ฉบับในวันนี้
โดยในตอนท้าย นายหม่าได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความมั่นใจในการเข้ามาร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัทอาลีบาบา และพร้อมที่จะช่วยร่วมมือกับและพัฒนาประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ลงนามครอบคลุมธุรกิจ 4 ด้าน
อย่างไรก็ตาม ด้านของการลงทุนที่กลุ่มบริษัทอาลีบาบา พร้อมที่จะช่วยสนับสนุนและพัฒนาประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการลงทุนสมาร์ทดิจิทัลใน อีอีซี ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์ควบคุมธุรกิจ E-commerce ในประเทศ CLMVT ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และ ไทยนั้น มีการลงนามที่ครอบคลุมธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ 1.ความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล โดยสำนักงานอีอีซี และ อาลีบาบา
- ความร่วมมือในการลงทุน Smart Digital Hub ระหว่าง สำนักงานอีอีซี กรมศุลกากร กับ Cainiao Smart Logistics Network ในกลุ่มอาลีบาบา
- ความร่วมมือในการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัล และการส่งเสริมธุรกิจผ่านอี-คอมเมิร์ซ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กับอาลีบาบา
4.ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเมืองรอง ระหว่างการท่องเที่ยวประเทศไทย กับ Fliggyหรือ Alitrip ผู้ให้บริการท่องเที่ยวจากจีน