แม้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี 2 ฉบับ สั่งตรวจสอบ 16 ประเทศ ข้อหามีพฤติกรรมการค้าไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐ ซึ่งมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วยนั้น แต่เชื่อว่าคำสั่งนี้ส่งผลกระทบต่อไทยไม่มากนัก
คำสั่งฉบับแรก เป็นคำสั่งให้หาสาเหตุที่ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ามูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ จาก 16 ประเทศ ซึ่งในรายชื่อของประเทศที่จะต้องมีการหาสาเหตุนั้นรวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยในคำสั่งดังกล่าวได้กำหนดให้กระทรวงพาณิชย์และผู้แทนการค้าสหรัฐทำการศึกษาเรื่องดังกล่าวภายในระยะเวลา 90 วัน
คำสั่งฉบับที่ 2 เป็นการสั่งการให้เพิ่มประสิทธิภาพการเรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด โดยระบุว่า ณ เดือนพฤษภาคม 2558 มีอากรตอบโต้การทุ่มตลาด 2.3 พันล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่สามารถเก็บได้
นอกจากนี้ คำสั่งดังกล่าวยังระบุให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิจัดการปัญหาการละเมิดกฎหมายการค้าและภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นในการจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และสินค้าปลอมด้วย
ไทยได้รับผลกระทบเล็กน้อย
ในกรณีนี้ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบเล็กน้อย หลังไทยติด 1 ใน 16 ประเทศเป้าหมาย ที่ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯต้องการยุติการขาดดุลทางการค้า ซึ่งมีปริมาณสูงถึง 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
การลงนามครั้งนี้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการแสวงหามาตรการเพื่อดำเนินการต่อประเทศต่างๆ ที่สหรัฐฯกำลังเสียดุลการค้าอยู่ในเวลานี้รวม 16 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งไทยได้เปรียบดุลการค้าจากสหรัฐไม่มากนัก และยังคงขาดดุลการค้าในประเทศอื่นๆอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีการส่งออกเทคโนโลยีสูง
อย่างไรก็ตามก่อนดำเนินการหารือด้านนโยบายอีกครั้ง ไทยจะต้องรอผลการเจรจาการค้าว่าเป็นอย่างไร
จีนได้รับผลกระทบมากสุด
ส่วนประเทศที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ประเทศจีน เนื่องจากได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯสูงที่สุด
ทั้งนี้หากสหรัฐฯมีมาตรการกีดกันการค้ากับจีนนั้น จะไม่สร้างผลกระทบกับประเทศไทยมากนัก เนื่องจากปัจจุบันจีนมีการใช้วัตถุดิบเพียงเล็กน้อยจากไทย ซึ่งสินค้าในหมวดยางพาราเป็นสินค้าที่จีนซื้อจากไทยสูงที่สุด ขณะที่สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ของไทยก็มีอัตราการส่งออกไปยังประเทศจีนน้อยลง
ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯกับประเทศต่างๆ
ทั้งนี้ตัวเลขที่ สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับประเทศจีน มีมูลค่าสูงถึง 3.47 แสนล้านดอลลาร์ รองลงมาคือญี่ปุ่น 6.89 หมื่นล้านดอลลาร์, เยอรมนี 6.49 หมื่นล้านดอลลาร์, เม็กซิโก 6.32 หมื่นล้านดอลลาร์, ไอร์แลนด์ 3.59 หมื่นล้านดอลลาร์ และเวียดนาม 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับประเทศไทยนั้น ข้อมูลจากทางการสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ส่งออกสินค้าไปยังประเทศไทยในปี 2559 มูลค่า 1.057 หมื่นล้านดอลลาร์ และนำเข้า 2.949 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับไทยทั้งสิ้น 1.892 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2558 และ 1.43 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2557