Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

ไมโครซอฟท์ประกาศสนับสนุน 25 ล้านคนทั่วโลก เสริมทักษะเชิงดิจิทัลใหม่ที่จำเป็น

Onlinenewstime.com : เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ระดับโลก เพื่อเสริมสร้างทักษะแรงงาน โดยมีวัตถุประสงค์ ในการพัฒนาทักษะเชิงดิจิทัลเพิ่มเติมให้กับผู้คนจำนวนกว่า 25 ล้านทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวถูกเปิดตัวขึ้น เพื่อสนับสนุนการเสริมสร้างทักษะ เพื่อนำไปปรับใช้เพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตเชิงเศรษฐกิจระดับโลก ที่เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

การขยายโอกาสในการเข้าถึงทักษะเชิงดิจิทัล เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการช่วยผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ว่างงานจากสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากที่สุด

ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค มีจำนวนแรงงานที่อาศัยอยู่ในประเทศ ที่มีการปิดสำนักงานในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดมากที่สุดถึง 1.09 พันล้านคน และภูมิภาคนี้ ยังมีจำนวนแรงงานนอกระบบ ที่อาศัยอยู่ในประเทศที่ใช้มาตรการล็อคดาวน์มากที่สุดถึง 829 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าร้อยละ 60 ของจำนวนแรงงานนอกระบบทั้งหมดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund หรือ IMF) คาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ จะส่งผลให้การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ที่อยู่ภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคชะลอตัวลงในปี พ.ศ.2563 ที่ระหว่างร้อยละ 3-10

สถานการณ์ในไทย

ในขณะเดียวกันยังได้คาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จะเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 5-7 ของจำนวนแรงงานทั้งหมด สำหรับในประเทศไทย มีการคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ จะลดลงร้อยละ 9.7 และมีอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค สถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบที่รุนแรงที่สุด ต่องานในภาคธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และบริการด้านการคมนาคม ซึ่งมีการคาดการณ์อัตราการว่างงาน เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 5-6 โดยเยาวชน เจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผู้ที่มีรายได้ต่ำ แรงงานอิสระ และแรงงานนอกระบบ เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มที่จะมีสัดส่วนการว่างงาน เนื่องจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากกว่าปกติ

นอกจากนี้ ลูกจ้างรายวันชาวไทย แรงงานอพยพในชุมชนเมือง ผู้หญิง และนักศึกษาจบใหม่ ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดในประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น กว่าร้อยละ 18 ของงานในภาคธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และบริการด้านการคมนาคมในประเทศ ยังถูกคาดการณ์ว่าอยู่ในภาวะเสี่ยงอีกด้วย [1]

นายสัตยา นาเดลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “โควิด-19 ก่อให้เกิดวิกฤตทั้งในเชิงสาธารณสุขและเศรษฐกิจ และในขณะที่โลกของเรา กำลังฟื้นตัวจากวิกฤตเหล่านั้น เราจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่า จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ในวันนี้ เราได้รวบรวมทรัพยากรที่ครอบคลุมของไมโครซอฟท์ รวมถึง LinkedIn และ GitHub เพื่อไตร่ตรองวิธีการที่ผู้คนใช้ ในการเรียนรู้และนำทักษะใหม่ๆ มาใช้งาน และช่วยเหลือผู้คนจำนวนกว่า 25 ล้านคน ที่ประสบปัญหาการว่างงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในการเตรียมความพร้อมสำหรับงานในอนาคต”

โครงการนี้ ซึ่งมีรายละเอียดเพิ่มเติมใน ลิงค์ ประกอบด้วยขั้นตอนที่เร่งด่วน ในการช่วยเหลือผู้คน ที่ต้องการฝึกทักษะใหม่ และสมัครงานที่กำลังเป็นที่ต้องการในตลาด และนำทุกส่วนของบริษัทมาใช้ โดยผสมผสานระหว่างทรัพยากรที่มีอยู่แล้ว และทรัพยากรใหม่ๆ จาก LinkedIn, GitHub และไมโครซอฟท์ ดังนี้

โครงการนี้เป็นโครงการเทคโนโลยีที่มีความครอบคลุม ซึ่งเป็นการต่อยอด จากข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเริ่มจากข้อมูลเกี่ยวกับงานและทักษะที่มาจาก LinkedIn Economic Graph โดยโครงการจะมอบการเข้าถึงเนื้อหาใ นแหล่งทรัพยากรต่างๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้แก่ LinkedIn Learning, Microsoft Learn, และ GitHub Learning Lab

โดยผสานเข้ากับการรับรองด้วย Microsoft Certifications และการนำเสนอเครื่องมือการหางานของ LinkedIn โดยแหล่งทรัพยากรเหล่านี้ สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซต์ศูนย์กลางที่ ลิงค์ และจะให้บริการอย่างแพร่หลาย ผ่านช่องทางออนไลน์ใน  4 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาสเปน

แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้ต่างๆ ที่ให้บริการภายใต้โครงการดังกล่าว ถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ให้เหมาะสมกับความต้องการของแรงงาน โดยประกอบด้วย

ในขณะเดียวกัน บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้ดำเนินงานสอดคล้อง กับโครงการระดับโลกดังกล่าว ภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ในโครงการฝึกอบรมทักษะเชิงดิจิทัล “Advancing the Future of Work” เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล

เพิ่มโอกาสในการจ้างงานให้กับบัณฑิตอาชีวะรุ่นใหม่จำนวน 6,000 คน ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ด้วยทักษะดิจิทัล ที่กำลังเป็นที่ต้องการของเหล่านายจ้าง ผ่านการฝึกอบรมอาจารย์จำนวน 120 คน จาก 60 สถาบันการศึกษา ภายในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ Eastern Economic Corridor (EEC) พร้อมรับโอกาสในการเรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าสู่ตลาดงาน ผ่านหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ บนแพลตฟอร์มของ Future Ready ASEAN ที่ ลิงค์

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ยังได้สนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ ด้วยการนำเสนอเส้นทางการเรียนรู้ และเนื้อหาที่ช่วยให้ผู้คนสามารถพัฒนาทักษะเฉพาะ ผ่านโครงการฝึกอบรมและการรับรองต่างๆ เช่น Exam AZ-900 สำหรับ Microsoft Azure Fundamentals และ AZ-100 สำหรับ Microsoft Azure Infrastructure and Deployment โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ลิงค์

นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กลุ่มคนที่มีความพร้อมในการต่อสู้ กับผลกระทบเชิงเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดน้อยที่สุด คือกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และเราได้พบเห็นอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น ในกลุ่มแรงงานรุ่นใหม่ ลูกจ้างรายวัน แรงงานอพยพที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง และนักศึกษาจบใหม่

เป้าหมายของเราคือ การผสมผสานสิ่งที่ดีที่สุดของเทคโนโลยี เข้ากับความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น กับรัฐบาลและหน่วยงานไม่แสวงผลกำไร เพื่อช่วยเหลือผู้คน ในการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการถูกจ้างงาน เราเชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีอย่าง AI ในการสนับสนุนการฟื้นฟูธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ และเรามีความมุ่งมั่นในการพัฒนาแรงงาน ที่มีทักษะและฝีมือ ที่สามารถได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่”

ยิ่งไปกว่านั้น ไมโครซอฟท์ยังได้ผลักดันความมุ่งมั่น ด้วยเงินทุนสนับสนุนมูลค่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 640 ล้านบาท) เพื่อช่วยให้องค์กรไม่แสวงผลกำไรทั่วโลก สามารถให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด โดย 1 ใน 4 ของเงินทุนนี้ หรือ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 160 ล้านบาท) จะถูกนำไปมอบให้กับองค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่มีลักษณะเป็นชุมชนในรูปแบบของเงินสด

โดยเป็นชุมชนที่นำโดยและจัดทำขึ้น เพื่อให้ความช่วยกลุ่มคนผิวสีในประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้ บริษัทยังมีความมุ่งมั่นในการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์ให้แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงข้อมูลจาก LinkedIn Economic Graph โดยให้บริการแก่รัฐบาลทั่วโลก เพื่อให้พวกเขาสามารถประเมินความต้องการเชิงเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น

ไมโครซอฟท์จะใช้เสียงของตนเอง เพื่อให้การสนับสนุนนวัตกรรมเกี่ยวกับนโยบายเพื่อสาธารณะ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเสริมสร้างทักษะที่จำเป็น ในเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ ยังได้ประกาศว่าทางบริษัท กำลังพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่เพื่อการเรียนรู้ใน Microsoft Teams ซึ่งถูกออกแบบขึ้น เพื่อช่วยให้นายจ้าง สามารถเสริมสร้างทักษะให้แก่พนักงานปัจจุบันและพนักงานใหม่ ในขณะที่ผู้คนเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ และในเศรษฐกิจมีการว่าจ้างงานเพิ่มขึ้น

การสร้างโอกาสให้กับคนทุกคนในกลุ่มแรงงานระดับโลก ยังเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของ LinkedIn โดยจากการเป็นส่วนหนึ่งของอีโคซิสเท็มของไมโครซอฟท์ ทำให้ LinkedIn มีความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ ในการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการหางานทั่วโลกในการเพิ่มทักษะและค้นพบกับงานที่เหมาะสมกับพวกเขา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เสียเปรียบ เนื่องจากภาวะวิกฤตโควิด-19 ด้วยการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง เกี่ยวกับอาชีพและทักษะในอนาคต เพื่อสร้างเส้นทางการเรียนรู้ เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่กำลังหางานกว่า 25 ล้านคนทั่วโลก ให้ได้พบกับโอกาสครั้งต่อไปของพวกเขา ซึ่งพร้อมให้บริการที่ ลิงค์

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ไมโครไซต์ของไมโครซอฟท์


[1] งานวิจัยจาก Microsoft Alpha Beta Strategy and Economic

Exit mobile version