Onlinenewstime.com : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออกประกาศจะขีดชื่อนิติบุคคล ออกจากทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 12,629 รายเนื่องจากไม่ส่งงบการเงินต่อเนื่องเกิน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2559-2561 จำนวน 9,393 ราย ทำให้เชื่อได้ว่าเลิกทำธุรกิจ และธุรกิจที่จดทะเบียนเลิกแล้ว แต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ 3,236 ราย นายทะเบียนจึงต้องดำเนินการทางกฎหมายเพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้อัพเดท สร้างความน่าเชื่อถือ และปิดช่องทางผู้ไม่ประสงค์ดี นำข้อมูลเท็จไปหาประโยชน์
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำลังอยู่ระหว่างการเผยแพร่ประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียนจำนวน 12,629 ราย ซึ่งเป็นนิติบุคคล ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
1) กรณีไม่ส่งงบการเงินติดต่อกัน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2559-2561 ซึ่งเป็นเหตุให้เชื่อว่า มิได้ทำการค้าขายหรือดำเนินธุรกิจแล้ว พบว่ามีจำนวน 9,393 ราย
2) กรณีจดทะเบียนเลิกแล้ว แต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ หรือมิได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือมิได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่เลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท พบว่ามีจำนวน 3,236 ราย
สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานงานสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ให้ตรวจสอบ เพื่อจะได้ดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน
อธิบดี กล่าวต่อว่า “ขณะนี้กรมฯ ได้ประกาศรายชื่อนิติบุคคลผ่านทาง เว็บไซต์ หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ เลือกบริการข้อมูล เลือกจดทะเบียนธุรกิจ และเลือกประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน ทั้งนี้ หากพ้นกำหนดเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลดังกล่าวจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียน และสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น”
“โอกาสนี้ขอฝากไปยังนิติบุคคล ถึงการจัดทำงบการเงินประจำปี และยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อแสดงฐานะทางการเงินและผลการดำเนินธุรกิจ ถือเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สำคัญของห้างหุ้นส่วนและบริษัททุกรายที่จดทะเบียนจัดตั้ง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
หากนิติบุคคลไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว หรือมีเหตุอันเชื่อได้ว่าไม่ได้ทำการค้าขายหรือประกอบธุรกิจใดๆ รวมไปถึงการไม่ยื่นงบการเงิน ไม่มีสำนักงานใหญ่ตามที่จดทะเบียนไว้ จดทะเบียนเลิกแล้ว ไม่ยื่นรายงานการชำระบัญชี หรือไม่จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น
ซึ่งการกระทำต่างๆ เหล่านี้ จะส่งผลเสียต่อผู้ที่สืบค้นฐานข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ และเข้าใจผิดว่านิติบุคคลดังกล่าว ยังมีสถานะคงอยู่ โดยทั้งนี้ กฎหมาย จึงได้ให้อำนาจต่อนายทะเบียน ในการถอนทะเบียนนิติบุคคลที่ทิ้งร้าง หรือเลิกประกอบกิจการไปแล้ว เพื่อปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน สร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้แก่ภาคธุรกิจที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูล และป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ” อธิบดีกล่าวในท้ายที่สุด