fbpx
News update

กรมพัฒน์ฯ จับมือ กรมสรรพากร เปิดช่องทางลัด! ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลและจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ในขั้นตอนเดียว

Onlinenewstime.com : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมสรรพากรร่วมกันยกระดับอำนวยความสะดวกการเริ่มต้นธุรกิจ โดยรวมขั้นตอนการจดทะเบียนนิติบุคคล และการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้อยู่ในขั้นตอนเดียว

ซึ่งเป็นการลดขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการผลักดันอันดับของไทยใน Doing Business ด้านการเริ่มต้นธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เริ่มเปิดให้บริการผ่านการยื่นแบบ walk in ตั้งแต่ 20 เมษายน 2563 เป็นต้นไป

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า จากรายงานผลการจัดอันดับ   ความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ ของธนาคารโลก หรือ Ease of Doing Business ปี 2020 ในส่วนของการเริ่มต้นธุรกิจ (Starting a Business) ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นเจ้าภาพหลักในการพัฒนานั้น ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ที่ 47 จาก 190 ประเทศ

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์

ซึ่งมีขั้นตอนและระยะเวลา ในการเริ่มต้นธุรกิจ 5 ขั้นตอน ใช้ระยะเวลา 6 วัน ได้แก่ 1) การจองชื่อบริษัท 2 วัน 2) การชำระเงินทุนเข้าธนาคาร 1 วัน 3) การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท 1 วัน 4) การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 วัน และ 5) การขึ้นทะเบียนนายจ้าง-ลูกจ้าง 1 วัน

อธิบดีกล่าวต่อว่า “กรมฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการพัฒนาระบบบริการ เพื่อสนับสนุนการเริ่มต้นธุรกิจในประเทศให้ดียิ่งขึ้น จึงได้บูรณาการความร่วมมือ กับกรมสรรพากร เพื่ออำนวยความสะดวกในการเริ่มต้นธุรกิจ

โดยรวมขั้นตอนการจดทะเบียนนิติบุคคล และการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ในขั้นตอนเดียว  ทำให้ผู้ประกอบการ ที่ประสงค์จะดำเนินการดังกล่าว สามารถกรอกข้อมูลที่ “แบบคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” และนำมายื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด

โดยถือว่านิติบุคคลดังกล่าว เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตั้งแต่ วันที่ได้รับจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563 เป็นต้นไป”

“จากการบูรณาการขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล และการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในข้างต้นแล้ว ที่ผ่านมากรมฯ ยังได้อำนวยความสะดวก การจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ พร้อมกับขึ้นทะเบียนประกันสังคมในคราวเดียวกัน

ซึ่งเปิดให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2562 โดยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน และบริษัทจำกัด ที่จดทะเบียนจัดตั้งใหม่กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จะถือว่าขึ้นทะเบียนเป็นนายจ้างโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้การพัฒนาดังกล่าว ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจ

ทำให้ผู้ประกอบการได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ และการดำเนินงานต่างๆ ซึ่งจะส่งผลในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการที่ดีขึ้น”

“นอกจากนี้ การพัฒนารูปแบบการให้บริการ ยังเป็นการยกระดับงานบริการของส่วนราชการแบบบูรณาการ ซึ่งจะส่งเสริมบรรยากาศและสภาพแวดล้อม ในการเริ่มต้นธุรกิจไปในทางที่ดี ก่อให้เกิดแรงจูงใจ  แรงสนับสนุน และช่วยดึงดูดให้ผู้ประกอบการชาวต่างชาติ มาเริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทย ส่งผลต่อการจัดอันดับ Ease of Doing Business ในปี 2021 ของไทยให้ดียิ่งขึ้น อันจะช่วยสนับสนุน และส่งเสริมให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนชาวต่างชาติ และการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ให้ก้าวหน้ามั่นคง ยั่งยืน และมีเสถียรภาพต่อไป” อธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด