มีสินค้าหลายประเภท ที่ต้องตกยุค…..ล้มหายตายจากกันไป ด้วยเพราะว่ากระแสโลกที่เปลี่ยนไปตามยุคดิจิทัล
เช่นเดียวกับ แบรนด์เครื่องเขียน สเต็ดเล่อร์ จากประเทศเยอรมนี ที่เข้ามาตั้งรกรากสร้างโรงงานในไทยกว่า 28 ปี เพื่อผลิตจัดจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเขียน ระบายสี วาดภาพ และงานศิลป์
สเต็ดเล่อร์ ประเทศไทย มีโรงงานผลิต 2 แห่งในประเทศไทย คือ ที่ลาดกระบัง บริษัท สเต็ดเล่อร์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (ก่อตั้ง เมื่อ พ.ศ. 2532) ผลิตปากกาลูกลื่น, ยางลบ และไม้บรรทัด และอีกแห่งนั้นตั้งอยู่ในย่านหนองจอก กรุงเทพฯบริษัท ดินสอ สยาม จำกัด (ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2544) ผลิตดินสอกราไฟท์และดินสอสี
ที่ผ่านมานั้น แม้ว่าจะเผชิญต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆก็ตาม ทว่าด้วยกระแสความนิยมการวาดภาพ นับว่าเป็นโอกาสทางการขายที่ทำให้ยอดขายของ สเต็ดเล่อร์ ฟื้นกลับมาและมียอดขายเติบโตแบบไม่เคยมีมาก่อน
ดร. คอนสแตนติน เชสชก้า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี กลุ่มบริษัทสเต็ดเล่อร์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้โลกของเราจะเข้าสู่ยุคดิจิตอลมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม เช่นตัวอย่างที่เห็นได้จากกระแสความนิยมที่คนวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกหันมาวาดภาพระบายสี
ซึ่งทำให้สมุดระบายสีสำหรับผู้ใหญ่กลับมาเป็นที่นิยมอย่างมาก จึงส่งผลให้ดินสอสีและปากกาเมจิกของสเต็ดเล่อร์เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากด้วยเช่นกัน ในภาพรวม 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ผู้บริโภคมีการซื้ออุปกรณ์ศิลปะมากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าแปลกใจอย่างยิ่งในยุคดิจิตอลเช่นนี้
ช่วงในปี 2558 และ 2559 ผลิตภัณฑ์ขายดีที่สุด 3 อันดับของสเต็ดเล่อร์ ได้แก่ ดินสอ ยางลบ และปากกาหัวเข็ม และในพ.ศ. 2559 สเต็ดเล่อร์มียอดจำหน่ายในประเทศไทยทั้งสิ้น 830 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตในประเทศไทยประมาณ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
นับว่า การที่กลุ่มบริษัทสเต็ดเล่อร์ ฟื้นกลับมามียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แน่นอนว่า ปัจจัยที่เหนือความคาดหมายอย่างหนึ่ง ที่ช่วยผลักดันยอดขายนี้ก็คือปรากฏการณ์ที่ คนวัยผู้ใหญ่ทั่วโลก หันมาจับดินสอระบายสีนั่นเอง