Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

กลุ่มมิตรผล รณรงค์ให้ความรู้ โครงการรับซื้อใบอ้อย-ฟางข้าว ใครได้ประโยชน์?

Onlinenewstime.com : หลังจากที่กลุ่มมิตรผลประกาศรับซื้อใบอ้อย และฟางข้าว สนับสนุนให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด งดการเผาแล้ว ก็ยังคงเดินหน้ารณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ว่าโครงการนี้ได้ประโยชน์กับใครบ้าง

โดยได้ที่หนึ่งคือ ได้งาน ได้อาชีพ ผู้รับเหมาหรือผู้รับจ้างในท้องถิ่น เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้จากค่าอัดใบอ้อย ค่าคีบใบอ้อย ค่าขนส่งใบอ้อย รวมประมาณ 500 บาทต่อตัน

ได้ที่สองคือได้เงินเพิ่ม ชาวไร่อ้อยได้เงินเพิ่มจากการขายใบอ้อย 1,000 บาทต่อตัน (ราคารับซื้อหน้าโรงงาน)

ได้ที่สามคือได้กระตุ้นเศรษฐกิจ กำไรที่เหลือ จากการขายใบอ้อยประมาณ 500 บาทต่อตัน เมื่อชาวไร่อ้อยนำมาจับจ่ายใช้สอย ก็จะเกิดเป็นรายได้หมุนเวียน 5 เท่า ส่งผลให้เศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็ง และชุมชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

ได้ที่สี่คือได้สิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ น้ำสะอาด ดินดี อากาศดี

ด้าน คุณบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า “ด้วยสถานการณ์การขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตรของไทย ภาวะโลกร้อน ที่ส่งผลให้สภาวะอากาศแปรปรวน เกิดเป็นปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง กลุ่มมิตรผลตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และให้ความสำคัญ กับการขับเคลื่อนนโยบายด้านความยั่งยืน

เห็นได้จากการส่งเสริมให้ชาวไร่อ้อยเปลี่ยนมาทำเกษตรสมัยใหม่แบบ “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” ที่เน้นการนำเครื่องจักรกลการเกษตร และการบริหารจัดการสมัยใหม่เข้ามาใช้มาเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการเผาอ้อยได้อย่างยั่งยืน

การรณรงค์ส่งเสริมให้ความรู้กับสังคมในครั้งนี้ เพราะเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง ในภาคอุตสาหกรรมเกษตรของไทย ที่จะสามารถแข่งขันและก้าวต่อไปอย่างยั่งยืน เราไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นเพียงแค่กระแส และจบลงในระยะเวลาอันสั้น  จึงอยากเห็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่จะมาช่วยกันสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม”

สำหรับสถานการณ์การรับซื้อใบอ้อย ตั้งแต่เริ่มเปิดหีบในเดือนธันวาคม 2562 โรงงานน้ำตาลกลุ่มมิตรผล ในจังหวัดสุพรรณบุรี สิงห์บุรี ขอนแก่น ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ เลย และอำนาจเจริญ รับซื้อใบอ้อยจากชาวไร่อ้อยไปแล้ว กว่า 100,000 ตัน โดยมีเป้าหมายจะรับซื้อ 200,000 ตันในฤดูการผลิตประจำปี 2562/2563 

Exit mobile version