Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

ข้อมูลการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนพฤษภาคม 2563

Onlinenewstime.com : นายวุฒิไกร  ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนพฤษภาคม 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

นายวุฒิไกร  ลีวีระพันธุ์

ผลการจดทะเบียนธุรกิจ

ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนพฤษภาคม 2563

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนพฤษภาคม 2563

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนพฤษภาคม 2563

การลงทุนประกอบธุรกิจในไทย


การให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนพฤษภาคม 2563

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล และ พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวก เพื่อลดต้นทุน ลดเวลา และลดการใช้กระดาษ โดยพัฒนางานบริการทุกกระบวนการ ของกรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ใช้บริการยื่นขอรับบริการได้ทุกที่ ทุกเวลาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และประกาศกรม เรื่องการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา              

การบริการหนังสือรับรองข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์และผลักดันการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์  

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ยกระดับการเป็นหน่วยงานรัฐบาลดิจิทัล โดยการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) มาให้บริการ  ซึ่งการบริการ e-Service เป็นการบริการขอหนังสือรับรอง ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์  โดยขอรับข้อมูลได้ผ่านช่องทาง Walk in  EMS  Delivery และการออกหนังสือรับรองรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Certificate File) มีจำนวนการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในเดือนพฤษภาคม 2563 มีจำนวน 267,023 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา 97,958 ราย ร้อยละ 263 โดยเฉพาะการบริการ ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ มีจำนวนการใช้บริการ 131,797 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 97 จากเดือนที่ผ่านมา และรองรับการให้บริการ สู่การบริการหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ และสมาคมการค้า หนังสือรับรองภาษาอังกฤษ

ทั้งนี้ การขอรับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากผ่านทาง เว็บไซต์ แล้ว สามารถขอรับบริการผ่านทาง Application DBD e- Service ได้ทั้งระบบ Android และ IOS

การให้บริการขอหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคล ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ส่วนกลาง) และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 ให้ขอรับบริการได้เฉพาะทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Service) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ปรับลดอัตราค่าบริการหนังสือรับรอง รับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคล ทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านธนาคาร (e-Certificate) จากอัตราเดิม หนังสือรับรองนิติบุคคล ฉบับละ 150 บาท เป็น ฉบับละ 100 บาท รับรองสำเนาเอกสารทะเบียน งบการเงิน/บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น จาก 1-5 หน้าแรก 100 บาท หน้าถัดไปหน้าละ 20 บาท เป็น หน้าละ 20 บาท โดยไม่กำหนดอัตราเริ่มต้น

โดยธนาคารกรุงไทย ปรับลดเป็นระยะเวลา 8 เดือน ตั้งแต่บัดนี้ถึง 31 สิงหาคม 2563 มีสาขาที่พร้อมให้บริการทั้งสิ้น 1,132 สาขาทั่วประเทศ

และธนาคารออมสิน ปรับลดเป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 มิถุนายน 2563 กว่า 1,070 สาขาทั่วประเทศ

DBD e – Filing การนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ 

การนำส่งงบการเงินของนิติบุคคล ที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดปี 2562 ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินแล้ว จำนวน 329,927 ราย คิดเป็น 46% ของนิติบุคคลที่ ต้องนำส่งงบการเงิน โดยนำส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 322,731 ราย คิดเป็น 98% และนำส่งในรูปแบบกระดาษ จำนวน 7,196 ราย คิดเป็น 2% 

ทั้งนี้การนำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น สามารถนำส่งได้ทุกที่ ทุกเวลา และสามารถตรวจสอบข้อมูลงบการเงินผ่าน DBD Data Warehouse และ DBD e – Service ผ่าน Application ได้อย่างรวดเร็ว

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิค 19 เพื่อให้การนำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของนิติบุคคลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมฯ ได้มีมาตรการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาด ดังนี้

ทั้งนี้ กรมจึงขอประชาสัมพันธ์ ให้นิติบุคคลเตรียมความพร้อมการดาว์นโหลดไฟล์ Excel บอจ.5 เพื่อกรอกบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นและดาวน์โหลดไฟล์งบการเงิน Excel เวอร์ชั่น 2 เพื่อกรอกงบการเงินตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปโดยศึกษาวิธีการใช้งานได้ที่ เว็บไซต์ เลือก “บริการออนไลน์” “ระบบนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์’ (DBD e-Filing)” โดยดาวน์โหลดวีดิทัศน์ไฟล์งบการเงิน Excel เวอร์ชั่น 2 และวิธีกรอกไฟล์ Excel บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น เพื่อนำส่งได้อย่างถูกต้องครบถ้วน

e-Certificate บริการระบบหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดระบบการให้บริการหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร (e-Certificate) ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2555 และผ่านการรับรองระบบพิมพ์ออกฯ จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.)

จึงเป็นนวัตกรรมแที่สามารถบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนผู้สนใจ สามารถติดต่อขอรับบริการ ณ สาขาธนาคารใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการ ได้รวมทั้งสิ้น 10 ธนาคาร จำนวน 3,837 สาขา

e-Secured จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์    

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างครบวงจร ผ่าน Web Application และ Web Service แบบ Host to Host และชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และออกใบเสร็จรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) โดยเจ้าพนักงานทะเบียนลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature)

รวมถึงสามารถตรวจค้นข้อมูล หลักประกันทางธุรกิจเบื้องต้นผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านระบบ mobile application (iosและ android) บนสมาร์ทโฟน

โดยตั้งแต่ 4 กรกฎาคม 2559 จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 523,022 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 8,226,171 ล้านบาท โดยมีการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิ จและใช้ประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สิน

สำหรับเดือนพฤษภาคม 2563 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 6,033 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 65,841 ล้านบาท

ทั้งนี้ทรัพย์สิน ที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ มากที่สุด ได้แก่ สิทธิเรียกร้อง เช่น บัญชีเงินฝาก ลูกหนี้การค้า สิทธิการเช่า คิดเป็นร้อยละ 83.36 (มูลค่า 54,885 ล้านบาท) รองลงมาคือ สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น เครื่องจักร สินค้าคงคลัง คิดเป็นร้อยละ 16.63 (มูลค่า 10,948 ล้านบาท)

กิจการ มีการจดทะเบียน คิดเป็นร้อยละ 0.01 (มูลค่า 8 ล้านบาท) และ ไม้ยืนต้น เป็นประเภทไม้ยาง คิดเป็นร้อยละ 0.0003 (มูลค่า 223,600 บาท) และมีผู้รับหลักประกันรวมจำนวนทั้งสิ้น 242 ราย

e-Registration การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์

การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 – 31 พฤษภาคม 2563 มีการยืนยันการใช้งาน (Activate) จำนวน 60,039 ราย รับจดทะเบียน 26,506 ราย ซึ่งกรม ได้มีการเตรียมการพัฒนาระบบให้อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น  ทั้งด้านการยืนยันตัวตนนิติบุคคลและการใช้ระบบงาน  รวมถึงการเชื่อมโยง เพื่อสร้างความพร้อมในการดำเนินธุรกิจให้แก่ SME ทั้งด้านการเงินและซอฟแวร์ รวมทั้งการให้บริการสำเนาเอกสารทะเบียนนิติบุคคล รูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคล ที่จดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration

DBD Connect เชื่อมระบบบัญชีสู่การยื่นงบการเงินออนไลน์ (DBD e-Filing)

กรมฯ ร่วมกับผู้ผลิตซอฟแวร์บัญชีชั้นนำของประเทศ จำนวน 16 ราย (20 โปรแกรม) พัฒนาการเชื่อมโยงซอฟต์แวร์บัญชีกับระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) แบบอัตโนมัติ ผ่านระบบ DBD Connect อำนวยความสะดวกการจัดทำบัญชีและงบการเงินสำหรับนักบัญชีให้สามารถนำส่งงบการเงินในรูปแบบ XBRL ที่เชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีพร้อมนำส่งงบการเงินผ่าน DBD e-Filing ได้โดยตรง และไม่ต้องคีย์ข้อมูลงบการเงินซ้ำ

การบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร (Total Solution for SMEs)  และ e-Accounting for SMEs

Total Solution for SMEs เป็นการขับเคลื่อน SMEs ด้วยนวัตกรรม โดยส่งเสริมให้ธุรกิจเข้าถึงเทคโนโลยีในการบริหารจัดการธุรกิจ ที่ครบวงจรได้โดยง่าย เปลี่ยน Traditional SMEs เป็น Smart SMEs ซึ่งกรมได้รวบรวมโปรแกรมด้านการบริหารจัดการทั้ง 3 ภาคส่วนไว้ด้วยกันคือ โปรแกรมสำนักงาน (Office)  โปรแกรมหน้าร้าน (POS) โปรแกรมบัญชี online (Cloud Accounting)  ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 25 โปรแกรม  

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้แจกฟรี “โปรแกรม e-Accounting for SMEs” ซึ่งเป็นโปรแกรมหน้าร้าน (POS) ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าขาย เช่น  มี Scanner เพื่อซื้อขายสินค้าในตัว , มีฐานข้อมูลของสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ เป็นต้น โดยร้านค้าสามารถสมัครขอใช้งานโปรแกรม e-Accounting for SMEs ได้ผ่านทางโครงการ Total Solution for SMEs หรือดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store ในระบบ Android

DBD Data Warehouse   

กรมได้พัฒนาระบบสารสนเทศให้มีความสมบูรณ์หลากหลาย และสามารถจัดทำผลวิเคราะห์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจ ประกอบด้วยข้อมูลนิติบุคคล  ข้อมูลและวิเคราะห์งบการเงิน ข้อมูลซัพพลายเออร์ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ ข้อมูลโอกาสทางธุรกิจ ข้อมูลการลงทุนจากต่างชาติในนิติบุคคลไทย รวมทั้งข้อมูลสถิติการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล พร้อมทั้งนำข้อมูลธุรกิจไปสนับสนุนการตัดสินใจในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยในปี 2563 (ม.ค. – พ.ค.) มีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสิ้นจำนวน 3,465,234 ครั้ง

Exit mobile version