Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

ข้าวออร์แกนิคไทยผงาด

rice organic

onlinenewstime.com : พาณิชย์ดันข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวออร์แกนิคไทยผงาดในงาน Natural Product Expo West 2019 พร้อมลุยขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปยังสหรัฐอเมริกา

นางสาวชุติมา  บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 4 – 9 มีนาคม 2562 เพื่อสร้างเครือข่ายทางการค้าและขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ไปยังสหรัฐอเมริกา โดยสินค้าไทยที่มีความโดดเด่นและมีศักยภาพคือข้าวหอมมะลิออร์แกนิคคุณภาพสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีศักยภาพ (Product Champion) และมีโอกาสทางการตลาดในสหรัฐฯ คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าออร์แกนิคไทยภายในงานและคาดการณ์ 1 ปีจะสูงถึงกว่า 145 ล้านบาท

“สินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวออร์แกนิคมีศักยภาพสูงสุดในตลาดสหรัฐฯ ในปี 2018 ช่วงเดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2561 สหรัฐฯ นำเข้าข้าวออร์แกนิคจากไทยมากถึง 8.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  (เป็นอันดับ 2 รองจากอินเดีย) เทียบกับตัวเลขการนำเข้าจากทั่วโลกในช่วงเดียวกันคือ 22.57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 38.86 % และคาดการณ์ว่าในปี 2562 สหรัฐฯ จะนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น 10 %”

ในการเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ คณะได้เข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า Natural Products Expo West 2019 (NPEW 2019) ณ  เมือง อนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติและสินค้าออร์แกนิคที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา มีผู้เข้าร่วมชมงานทั้งสิ้นกว่า 85,000 ราย มีบริษัทและองค์กรต่างๆ เข้าร่วมงานจำนวน 3,521 ราย บนพื้นที่แสดงสินค้า 1 ล้านตารางฟุต 

ทั้งนี้ คณะฯ ได้พบหารือผู้ประกอบการไทย 17 รายที่เข้าร่วมเจรจาการค้าในคูหาประเทศไทยภายในงานฯ ซึ่งผู้ประกอบการไทยกลุ่มนี้ผ่านการคัดเลือกภายใต้โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการนวัตกรรมข้าวไทยเพื่อเจาะตลาดเกษตรอินทรีย์สหรัฐอเมริกาที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเริ่มดำเนินโครงการฯ มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2561

CR : moc

โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของสหรัฐฯ มาให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการในการพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับตลาด และให้คำแนะนำในการเตรียมความพร้อมเพื่อเจาะตลาดสหรัฐฯ สินค้าออร์แกนิคที่ทำจากข้าวมีทั้งที่เป็นอาหารและไม่ใช่อาหาร ได้แก่ ขนมทานเล่น ซีเรียล เส้นก๋วยเตี๋ยว และเครื่องสำอาง เป็นต้น

นอกจากคณะได้เข้าเยี่ยมชมงาน NPEW 2019 แล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังได้จัดกิจกรรมคู่ขนาน คือ การหารือร่วมกับภาคเอกชนรายสำคัญจำนวน 3 ราย ได้แก่ ผู้บริหารบริษัท North Gate Supermarket ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายสินค้า Hispanics ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ปัจจุบันมี 40 สาขา ทั้งในรัฐCalifornia ตอนใต้ รัฐ Texas และรัฐ Arizona โดยได้หารือร่วมกันเกี่ยวกับลู่ทางการขยายตลาดสินค้าไทยไปสู่ตลาด Hispanic ในฝั่งตะวันตกของอเมริกา

รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลแนวโน้ม ความนิยม และความต้องการสินค้า Ethnic Foods ในตลาดสหรัฐฯ  

คณะยังได้พบกับผู้บริหารห้างซุปเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ Mother’s Market & Kitchen ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นขายสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ สินค้า organic, non-GMO, vegan, vegetarian, gluten-free, low carbohydrate, low glycemic, low-fat, low-salt เป็นต้น ปัจจุบันมี 8 สาขาในรัฐCalifornia ตอนใต้ โดยได้หารือลู่ทางการนำเข้าและการประชาสัมพันธ์สินค้าออร์แกนิคจากไทยให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ และภาคเอกชนรายที่สาม ได้แก่ บริษัทVihn – Sanh Trading Corp. ซึ่งผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐฯ โดยมีบริษัทในเครือ 2 แห่งคือ Vinh Sanh Trading Co. และ First World Trading Corp. ในปี 2018 นำเข้าข้าวไทยประมาณ 30,000 ตัน

ทั้งนี้ได้หารือลู่ทางการนำเข้าข้าวและสินค้าข้าวเพิ่มเติมจากไทยและแลกเปลี่ยนข้อมูลแนวโน้มความต้องการบริโภคข้าวในตลาดสหรัฐฯ โอกาสของข้าวสี/ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ไทยในตลาดสหรัฐฯ และเน้นย้ำให้ผู้นำเข้าสหรัฐฯ เล็งเห็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของข้าวไทยเมื่อเทียบกับข้าวจากประเทศอื่นๆ

นางสาวบรรจงจิตต์  อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าการค้าสินค้าในกลุ่มนี้สูงถึงปีละประมาณ 47,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของผู้บริโภค ซึ่งผู้จำหน่ายหรือผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ในสหรัฐอเมริกามีการพึ่งพาการนำเข้าพืชผลหรือวัตถุดิบอินทรีย์จากต่างประเทศ


ในปี 2018 สหรัฐฯ มีการนำเข้าสินค้าธรรมชาติและอินทรีย์ประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 แบ่งเป็นสินค้า Natural & Organic Foodsร้อยละ 39 Functional Food ร้อยละ 31 Supplements ร้อยละ 21 Natural Living ร้อยละ 9

โดยมีตลาดผู้บริโภคสำคัญ ได้แก่ Baby Boomer, Gen X, Gen Y (Millennial)และ Gen Z (iGen) 

สำหรับช่องทางการจำหน่าย ได้แก่ ร้านค้าปลีกเครือข่าย/Mass Market (ร้อยละ 59) ร้านค้าปลีกเฉพาะทาง/Natural & Specialty Store (ร้อยละ 27) หรือขายผ่านเครือข่ายหรือขายผ่านผู้เชี่ยวชาญ/Practitioner (ร้อยละ 8 ) ช่องทางออนไลน์ และ Mail Order, Direct TV& Radio (ร้อยละ 6)”

การเยือนสหรัฐฯในครั้งนี้ของคณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นการขยายตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์และออร์แกนิคระหว่างไทย-สหรัฐ โดยคาดว่าตลาดสินค้าออร์แกนิคไปยังตลาดสหรัฐฯสามารถขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Exit mobile version