fbpx
News update

คณะผู้เชี่ยวชาญ สรุปอาการไม่พึงประสงค์ หลังฉีดวัคซีนซิโนแวคเกิดขึ้นได้

Onlinenewstime.com : คณะกรรมการพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีน สรุปผลบุคลากรทางการแพทย์ 6 รายหลังฉีดวัคซีนซิโนแวค มีอาการทางระบบประสาท คล้ายโรคหลอดเลือดสมอง เกิดขึ้นชั่วคราว ผลสแกนสมองไม่พบผิดปกติ หลังรักษาอาการเป็นปกติดี คาดว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีน ขณะที่วัคซีนในล็อตเดียวกันฉีดแล้วกว่า 3 แสนรายยังไม่พบอาการคล้ายกัน จึงมีมติให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคต่อได้ เนื่องจากประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าอาการที่เกิดขึ้น

วันนี้ (21 เมษายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.พญ. กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน พร้อมด้วย นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค พญ. ทัศนีย์ ตันติฤทธิศักดิ์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา และนายกสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย  และ นพ.เมธา อภิวัฒนากุล รองเลขาธิการสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงข่าว กรณีบุคลาการทางการแพทย์ 6 ราย ที่ จ.ระยอง เกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการรับวัคซีนโควิด 19 ของซิโนแวค

ศ.พญ.กุลกัญญากล่าวว่า จากการสอบสวนอย่างละเอียดทั้ง 6 ราย มีอาการคล้ายหลอดเลือดสมอง (Stroke) เช่น แขนขาอ่อนแรง ชา ชาครึ่งซีก ยังบอกไม่ได้แน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ส่วนใหญ่เกิดกับสตรีอายุไม่มาก ไม่มีปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน หายภายใน 1-3 วัน

จากการสแกน MRI สมองพบว่าปกติ จึงเรียกว่าเป็นอาการทางระบบประสาท เป็นกลุ่มอาการคล้ายหลอดเลือดสมอง ที่เกิดชั่วคราว คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน เนื่องจากเกิดภายในช่วง 5-10 นาที

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคุณภาพวัคซีนล็อตดังกล่าว ไม่พบความผิดปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องมาตรฐานการจัดเก็บวัคซีน ขณะที่วัคซีนล็อตนี้กระจายไป 5 แสนโดส มีผู้รับวัคซีนแล้วมากกว่า 3 แสนราย ยังไม่พบอาการดังกล่าว จึงต้องติดตามต่อไป โดยคณะกรรมการฯ ลงความเห็นว่า ให้ใช้วัคซีนล็อตนี้ต่อไปได้ เนื่องจากประโยชน์ของวัคซีนมีมากกว่าอาการที่เกิดขึ้น

“เมื่อมีอาการคล้ายหลอดเลือดสมองตามแนวทางคือ รักษาด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือดตามมาตรฐานไปก่อน แม้ภายหลังตรวจพบว่าไม่เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง เพราะผลสแกนสมองปกติทั้งหมด แต่การรักษาไปก่อน ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด” ศ.พญ.กุลกัญญากล่าว

ศ.พญ.กุลกัญญากล่าวต่อว่า บุคลากรทางการแพทย์ ที่เกิดอาการหลังรับวัคซีนยังรับวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อได้ เนื่องจากไม่ใช่การแพ้รุนแรง ยืนยันว่าไม่มีข้อห้าม และไม่เคยมีหลักฐานเชื่อมโยงว่า ยาคุมกำเนิดหรือประจำเดือน จะทำให้เกิดอาการข้างเคียงจากวัคซีนมากเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ การควบคุมโรคโควิดต้องใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง และเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากกว่าร้อยละ 70 ของประชากร จนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จึงจะถอดหน้ากากออกพร้อมกันได้ เหมือนประเทศอิสราเอล ตอนนี้แม้จะรับวัคซีนแล้ว ยังต้องสวมหน้ากากต่อไป

นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า อาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น เป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข 5 ราย และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาล 1 ราย ทั้งหมดรับวัคซีนโคโรนาแวคของบริษัทซิโนแวคในล็อตเดียวกัน มีอาการภายหลังรับวัคซีน 5-30 นาที

โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน 1 ราย วันที่ 6 เมษายน 1 ราย วันที่ 8 เมษายน 2 ราย  และวันที่ 9 เมษายน 2 ราย มีอาการคล้ายโรคระบบประสาทและสมอง คือ ชาครึ่งซีก อ่อนแรงที่แขนขา หรือชาแต่ไม่มีอาการอ่อนแรง และพบว่าเป็นผู้มีโรคประจำตัวคือมะเร็ง 1 ราย ไขมันในเลือดสูง 1 ราย น้ำหนักเกิน 2 ราย และมีประวัติกินยาคุมกำเนิด 4 ราย

ทั้งนี้ มีการฉีดวัคซีนของซิโนแวคแล้วกว่า 6 แสนราย มีการเฝ้าระวังติดตามอาการทุกราย หากมีอาการรุนแรง จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ ต่อไป โดยกระทรวงสาธารณสุข พร้อมจะปฏิบัติตามข้อแนะนำของคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ด้านพญ.ทัศนีย์ ตันติฤทธิศักดิ์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันประสาทวิทยา และนายกสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า แพทย์ที่ จ. ระยองตรวจวินิจฉัยผู้ที่มีอาการทั้งหมดพบว่า เกิดอาการอ่อนแรงจริง ชา ปากเบี้ยว พูดไม่ชัดในบางราย คล้ายอาการโรคหลอดเลือดสมอง จึงต้องรักษาตามมาตรฐาน ด้วยการให้ยาละลายลิ่มเลือดใน 4.5 ชั่วโมง เพื่อช่วยชีวิตและลดความพิการตามมาตรฐานการรักษา

ซึ่งเป็นการรักษาฉุกเฉินที่ต้องให้การรักษาก่อน แล้วค่อยดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งพบว่าหลังรักษาอาการดีขึ้นทุกราย จนกลับมาเป็นปกติ ผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ไม่พบผิดปกติ และตรวจเพิ่มด้วยการ MRI สมอง ก็ไม่พบเนื้อสมองตายหรือหลอดเลือดสมองตีบ

คิดว่าคล้ายกลุ่มอาการหลอดเลือดสมอง อาจสัมพันธ์กับการฉีดวัคซีน เพราะมีรายงานว่าการฉีดวัคซีน อาจเกิดอาการทางระบบประสาทที่เกี่ยวข้องได้ แต่พบไม่บ่อย มักเป็นเพียงชั่วคราว และดีขึ้นกลับมาเป็นปกติ จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม สาเหตุเชิงลึกต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการติดตามต่อไป

ด้าน นพ.เมธา อภิวัฒนากุล รองเลขาธิการสมาคมประสาทวิทยาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังฉีดวัคซีน หากพบอาการที่เข้าได้กับระบบประสาทและหลอดเลือดสมอง ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ส่วนแพทย์ที่ตรวจพบอาการที่เข้าได้กับหลอดเลือดสมอง ให้รักษาตามแนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง ที่มีข้อบ่งชี้ให้ยาละลายลิ่มเลือด และให้รายงานเข้ามาตามระบบ เพื่อนำไปศึกษาหรือสืบสวนต่อไป อย่างไรก็ตามขอให้ลดความกังวล การรักษาจะเป็นไปตามกลุ่มอาการ และมาตรฐานของการรักษา