Onlinenewstime.com : การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ก่อให้เกิดความเสียหาย อย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก ในรูปแบบต่างๆ และขณะนี้ก็ยังไม่สามารถมั่นใจได้ 100% วัคซีนที่ออกมา จะสามารถป้องกันประชากรโลกได้ครบถ้วน ผู้นำของประเทศ ต่างต้องวางแผนและใช้ความพยายามอย่างหนัก และยาวนานในการต่อสู้กับวิกฤตไวรัสในครั้งนี้
อ้างอิงข้อมูลกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ได้ผลสรุปตัวเลขในปี 2020 มาดูกันว่าในปีที่ผ่านมา (2020) เศรษฐกิจของโลกกระทบกระเทือนไปมากน้อยเพียงใด ท่ามกลางการเผชิญการระบาดในรอบแรก
กว่าทศวรรษที่สหรัฐอเมริกา ครองตำแหน่งผู้นำทางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง แต่สถิติการเติบโตที่ต่อเนื่องต้องมาชะงักในปีที่ผ่านมา โดยมีตัวเลข GDP ลดลงจาก 21.43 มาอยู่ที่ 20.81 ล้านล้านดอลลาร์ ลดลงที่ 2.92%
ประเทศในเอเชียที่อยู่ในอันดับต้น คงไม่พ้นประเทศจีน ที่ตามอันดับ 1 มาติดๆ กับตัวเลขที่ 14.86 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และสร้างปรากฎการณ์ % GDP สูงขึ้นจากปี 2019 ถึง 3.19% ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มว่าจีนอาจแซงหน้าสหรัฐฯได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า
ญี่ปุ่นยังคงรักษาอันดับ 3 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้ว่า % จะลดลงไปถึง 3.33% ทำให้ปี 2020 ปิดตัวเลขที่ 4.91 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
ประเทศในกลุ่มยุโรป ทั้งเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศสและอิตาลี ยังคงยึดอันดับอยู่ใน Top 10 ได้ โดยเยอรมันแซงหน้าอินเดียที่ครองอันดับที่ 4 ในปี 2019 โดยมีมูลค่าที่ 3.78 ล้านล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยอังกฤษครองอันดับ 5 ที่ 2.64 ล้านล้านเหรียญ
คั่นกลุ่มประเทศยุโรปด้วยอินเดีย ที่ครองอันดับ 6 กับมูลค่า 2.59 ล้านล้านดอลลาร์ แต่มี % ลดลงจากปี 2019 ถึง 9.63%
อันดับที่ 7 และ 8 เป็นของฝรั่งเศส และอิตาลี ด้วยมูลค่า 2.55 และ 1.85 ล้านล้านเหรียญตามลำดับ
ปิดด้วย 2 อันดับสุดท้ายคือ แคนาดา 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ และเกาหลี ที่ติด Top 10 แซงบราซิลในปีนี้ด้วยมูลค่า 1.59 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่จากตัวเลข เรากลับได้เห็นทิศทางที่กลับกันของการกระเตื้องทางเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังพัฒนา
จนกระทั่งปัจจุบันนี้ โลกก็ยังเผชิญความหวั่นวิตกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 น่าติดตามต่อไปว่า เศรษฐกิจโลกจะพัฒนาไปในทิศทางไหนในสภาพแวดล้อมใหม่นี้
ตัวเลขในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF คาดการณ์อย่างชัดเจนว่า การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวในวงกว้าง โดยคาดว่าเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลง ตั้งแต่ช่วงปี 2020-21 และ 2021-22 ประมาณ 515พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรูปแบบใกล้เคียงกันสำหรับสหรัฐอเมริกา ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอการเติบโต 68 พันล้านดอลลาร์
สอดคล้องกับองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ที่คาดการณ์ว่าการเติบโตทั่วโลกจะขึ้นเพียง 4.7% ในปี 2021 ซึ่งไม่สามารถทดแทนอัตราที่หดตัวลงในปี 2020 ได้
นอกจากนี้ธนาคารโลก หรือ World Bank ยังเน้นย้ำถึงปัจจัยคุกคาม ที่จะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางเศรษฐกิจโลกในระยะยาว เว้นแต่จะมีแผนการลงทุนใหญ่ๆในระยะยาวมาช่วยเรื่องการเติบโต