Onlinenewstime.com : กรมชลประทาน เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขัง หลังฝนตกต่อเนื่องหลายพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือเข้าประจำจุดเสี่ยงพร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องหลายพื้นที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสายหลักเพิ่มมากขึ้น จนไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง อาทิ จังหวัดนครราชสีมา มีน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร(บน-ล่าง) ที่อำเภอด่านขุนทด อำเภอเมือง อำเภอโนนไทย และอำเภอโนนสูง โครงการชลประทานนครราชสีมา ได้บริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่น้ำท่วมบริเวณอำเภอหล่มสัก เนื่องจากเกิดน้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำป่าสักที่สถานี S.3 อ.หล่มสัก โครงการชลประทานเพชรบูรณ์ ได้ประสานเทศบาลเมืองหล่มสัก ให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง ไว้ในพื้นที่เสี่ยงแล้ว
ที่จังหวัดชัยนาท มีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร อ.สรรคบุรี บริเวณ ต.บางขุด และต.ดอนกำ จำนวน 3,130 ไร่ โครงการชลประทานชัยนาท ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 7 เครื่อง พร้อมกับใช้ระบบชลประทานในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ ปัจจุบันช่วยเหลือพื้นที่ได้แล้วกว่า 1,180 ไร่ และจะเร่งช่วยเหลือพื้นที่ที่เหลือให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีพื้นที่น้ำท่วม 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สามชุก บริเวณ ต.หนองผักนาก ต.บ้านสระ และที่อ.เมือง บริเวณ ต.สระแก้ว โครงการชลประทานสุพรรณบุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 6 เครื่อง พร้อมนำรถแบคโฮ 2 คัน เข้ากำจัดวัชพืชในคลองระบาย เพื่อเร่งการระบายน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น
ที่จังหวัดสมุทรปราการ มีน้ำท่วมขังบริเวณอำเภอบางบ่อ โครงการชลประทานสมุทรปราการ ได้ทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 10 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำอีกจำนวน 16 เครื่อง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสถานการณ์น้ำที่อำเภอบางบ่อ กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีน้ำล้นตลิ่งริมคลองหกวาสายล่าง(ช่วงที่ระดับคันคลองต่ำ) ม.1 ต.ดอนฉิมพลี และ ม.14 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา สูงประมาณ 0.15 เมตร โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ได้เร่งระบายน้ำออกทางสถานีสูบน้ำสมบูรณ์ ประตูระบายน้ำปลายคลอง 18-21 ไปลงแม่น้ำนครนายก และประตูระบายน้ำปลายคลอง14-17 ไปลงคลองบางขนาก ก่อนระบายน้ำไปลงแม่น้ำบางปะกง แนวโน้มระดับน้ำเริ่มลดลง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ในช่วง 2-3 วัน หากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมควบคุมและบริหารจัดการน้ำในอ่างฯ ให้อยู่ในเกณฑ์เก็บกัก ตรวจสอบอาคารชลประทานให้มีความพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพเสมอ
รวมทั้งมอบหมายเจ้าหน้าที่ และเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และรถแบคโฮ เข้าประจำพื้นที่เสี่ยงสามารถปฏิบัติงานได้ทันที ที่สำคัญได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานระดับจังหวัด ในการให้ความช่วยเหลือและแจ้งเตือนประชาชนถึงสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถร้องขอไปยังโครงการชลประทาน หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน ได้ตลอดเวลา