fbpx
News update

ชมนิทรรศการ เย็นศิระ เพราะพระบริบาล ร่วมชื่นชมพระบารมี ถึงเดือน มิ.ย. 2560

onlinenewstime.com : รัฐบาลจัดนิทรรศการ เย็นศิระ เพราะพระบริบาล ขึ้น ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร เพื่อถวายเป็นราชสักการะ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ที่อยู่คู่บ้านเมืองมาอย่างยาวนาน พร้อมระลึกถึงพระราชจริยาวัตรที่งดงาม และพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรม และสร้างประโยชน์สุขแก่พสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติ

นอกจากนี้ การจัดนิทรรศการดังกล่าว คนไทยจะได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10

ซึ่งในส่วนนี้จะแสดงภาพพระราชกรณียกิจพร้อมข้อมูลพระราชประวัติในด้านต่างๆ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปของหนังสือที่เปิดได้เองและเล่าเรื่องไปพร้อมกัน

สำหรับ นิทรรศการ เย็นศิระ เพราะพระบริบาล จัดขึ้นบริเวณท้องสนามหลวง โดยเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ตั้งแต่วันนี้ ( 10 ก.พ. 2560 ) จนถึง เดือน มิ.ย. 2560 ตั้งแต่เวลา 08.00 ถึง 20.00 น.ภายในนิทรรศการ ประกอบด้วย 5 โซน มีรายละเอียดดังนี้

  • โซนที่ 1 บุญของแผ่นดินไทย ประกอบด้วย บูรพกษัตริย์ไทย สร้างชาติไทยให้มั่นคง สืบสานตำนานราชวงศ์จักรีและพระเจ้าอยู่หัวในดวงใจ
  • โซนที่ 2 พระราชาผู้ทรงธรรม ( ทำ ) ประกอบด้วยในหลวงอย่าทิ้งประชาชน
  • โซนที่ 3 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระผู้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม และศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
  • โซนที่ 4 พระมิ่งขวัญชาวไทย ประกอบด้วย พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
  • โซนที่ 5 ร้อยใจไทย ประกอบด้วย 89 ภาพพระราชกรณียกิจ พร้อมพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัส

นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือสำนักงาน กปร. จัดขึ้นที่ได้จำลองพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ที่มีชีวิตในการบริหารจัดการ ดิน น้ำ ป่า อาชีพ ตามแนวพระราชดำริ ที่สร้างประโยชน์และความสมบูรณ์ให้กับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสามารถขยายผล ไปยังเครือข่ายทั้งภาครัฐและประชาชน ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต การประกอบอาชีพ เพื่อพัฒนาตนเอง และสังคมประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

เครดิตข้อมูล  : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์