
Onlinenewstime.com : กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุข รณรงค์ให้เด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย แปรงฟันนาน 2 นาที ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ให้สะอาด ทั่วทั้งปาก ทุกซี่ ทุกด้าน เพื่อป้องกันฟันผุ
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผย ภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ “ขยับแปรง 2 นาที” ในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย เป็นสถานที่สำคัญในการดูแลสุขภาพเด็กปฐมวัย ให้มีพัฒนาการสมวัย สูงดีสมส่วน
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสถานพัฒนา เด็กปฐมวัยแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัยจึงขับเคลื่อนการส่งเสริมคุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ด้านสุขภาพเด็ก หรือ 4D อันประกอบด้วย
1) ด้านโภชนาการและการเจริญเติบโต (Diet)
2) ด้านพัฒนาการ (Development & play)
3) ด้านทันตสุขภาพ (Dental) และ
4) ด้านการป้องกันโรค (Diseases)
ภายใต้กิจกรรม กิน กอด เล่น เล่า นอน เฝ้าดูฟัน โดยในส่วนของการส่งเสริมด้านทันตสุขภาพนั้น มีเป้าหมายให้เด็กปฐมวัยมีสุขภาพช่องปากดี ปราศจากฟันผุ โดยกำหนดให้เด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกคน ต้องแปรงฟันหลังอาหารกลางวันทุกวัน ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ มีการตรวจประเมินสุขภาพช่องปากเด็ก โดยครูผู้ดูแลเด็ก และจัดอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพช่องปากแก่เด็ก

ซึ่งจากการศึกษาของกรมอนามัย เรื่องพัฒนาการของเด็กปฐมวัยไทยล่าสุด พบว่า เด็กปฐมวัยที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก มีโอกาสที่จะพัฒนาการสมวัย ต่ำกว่าเด็กที่ไม่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก 1.43 เท่า และพบพัฒนาการด้านภาษาช้า ไม่กล้าสื่อสารกับผู้อื่น เพราะออกเสียงไม่ชัดเจน หรือกำลังเจ็บปวดจากปัญหาในช่องปาก
นอกจากนี้ เด็กที่มีฟันน้ำนมผุ เมื่อโตขึ้นมักพบว่ามีฟันแท้ผุไปด้วย เนื่องจากเด็กที่มีฟันผุ จะมีเชื้อก่อโรคฟันผุในช่องปากมากกว่าปกติ ซึ่งจะส่งผลให้ฟันแท้ที่กำลังจะขึ้นใหม่นั้น ผุได้เช่นเดียวกัน
“ทั้งนี้ เด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ควรขยับแปรงให้นาน 2 นาที เพื่อให้แปรงฟันได้สะอาดทั่วทั้งปาก ทุกซี่ ทุกด้าน และเป็นการให้เวลาฟลูออไรด์ในยาสีฟัน จับกับผิวเคลือบฟันเพื่อป้องกันฟันผุ อีกทั้งเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักแปรงฟันตนเอง และเรียนรู้ว่าการแปรงฟันเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน
เมื่อเด็กแปรงฟันเป็นประจำ จะเคยชินกับการมีสภาพช่องปากสะอาด เกิดการเรียนรู้ว่าการแปรงฟัน เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน พัฒนาให้เป็นสุขนิสัย และเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการแปรงฟัน ควรมีผู้ใหญ่หรือครูผู้ดูแลเด็กตรวจความสะอาดหลังการแปรงฟันด้วย” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ทางด้าน ทันตแพทย์ปิยะธิดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า จากการสำรวจสภาวะสุขภาพช่องปากแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ประเทศไทย พบความชุกโรคฟันผุในเด็กอายุ 3 ปี ร้อยละ 52.9 และเด็กอายุ 5 ปี ร้อยละ 75.6 โดยสาเหตุหลักของการเกิดฟันผุในเด็กปฐมวัย เกิดจากพฤติกรรมการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม เช่น การปล่อยให้เด็กหลับคาขวดนมหลังจากฟันน้ำนมขึ้นในช่องปากแล้ว การให้เด็กกินขนมหรือนมที่มีรสหวานเป็นประจำ และผู้ปกครองไม่ได้เริ่มแปรงฟันตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น หรือละเลยเรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากของเด็ก
จึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพช่องปากของเด็กในอนาคต เพราะการมีฟันน้ำนมผุลึก จะทำให้เด็กมีอาการปวดฟัน เคี้ยวอาหารไม่ได้ ร่างกายจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อการเจริญเติบโต เด็กจะมีน้ำหนักและส่วนสูงน้อย อีกทั้งอาการปวดฟัน ยังส่งผลให้เด็กนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ มีพัฒนาการบางด้านไม่สมวัย หรือมีพัฒนาการด้อยกว่า เด็ก ๆ ที่มีฟันดี ดังนั้น การดูแลสุขภาพช่องปากเด็กปฐมวัย จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่เด็กเพื่อลดปัญหาฟันผุ เมื่อโตขึ้น