Onlinenewstime.com : ซิตี้แบงก์ ประเทศไทยประกาศว่า บริษัทได้ก้าวผ่านการแพร่ระบาด COVID-19 ด้วยยอดค้าปลีกที่โดดเด่น สะท้อนความยืดหยุ่นและการปรับตัวที่น่าทึ่งของซิตี้ ให้เข้ากับการดำเนินชีวิตแบบ ‘Next Normal’ ในด้านการธนาคาร แม้ว่าจะมีความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสภาวะ COVID-19 ก็ตาม
ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจบัตรเครดิต แม้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภค ได้เปลี่ยนไปและมีการเปลี่ยนไปสู่การใช้จ่ายออนไลน์ที่มากขึ้น ซิตี้มีความตื่นตัว ในการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเราเชื่อว่าธุรกิจบัตรเครดิต จะยังคงเติบโตต่อไปแม้ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างยากลำบากนี้
“ในที่สุดแล้ว ผมเชื่อว่าการแพร่ระบาด COVID-19 นี้ กลับกำลังเร่งกระแสให้ไปสู่ระบบอีคอมเมิร์ซ และการชำระเงินไร้เงินสด (e-commerce & cashless payments) ในประเทศไทย
ซิตี้มีแรงบันดาลใจ และแรงกระตุ้นที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ ด้วยวิธีที่ปลอดภัยและยอดเยี่ยม การทำให้ชีวิตง่ายขึ้น มีความปลอดภัยและมั่นคง สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 นั้น เราถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเสมอมา” นายปราติ๊ก บัตตาชาร์จี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทยกล่าว
นายบัตตาชาร์จี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และมีมาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown measures) ซึ่งส่งผลให้ผู้คนต้องรักษาระยะห่างทางสังคม และทำงานจากที่บ้าน เป็นผลให้มีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นสมัครใช้บัตรเครดิตซิตี้ สำหรับการใช้จ่ายออนไลน์และการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ
การใช้จ่ายออนไลน์ของลูกค้าผ่านบัตรเครดิตซิตี้เพิ่มขึ้น 11% ในไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่า การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตมีการเติบโตสูงสุดในกิจการประเภทต่างๆ อาทิ ซุปเปอร์มาเก็ต ประกันภัยและการแพทย์ ตามลำดับ สำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 79% ในปี 2563 โดยช่วยผลักดันให้ยอดสมาชิกบัตรเครดิตซิตี้ทำสถิติใหม่
การดำเนินงานที่โดดเด่น
การดำเนินงานที่โดดเด่นของซิตี้ เกิดจากปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ประการแรกซิตี้ปรับตัวให้เข้ากับสภาวการณ์ทางธุรกิจ ที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 มีการเปิดตัวโปรโมชั่นบัตรเครดิต ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ให้กับลูกค้าตลอดปี 2563 พร้อมข้อเสนอและการอัปเดตการแลกของรางวัลสำหรับลูกค้าให้มากขึ้น สำหรับปี 2564
ประการที่สอง บริการซิตี้ เพย์ออล (Citi PayAll) ซึ่งเป็นบริการที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ล่าสุดของซิตี้ ก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย แม้จะเกิดการแพร่ระบาด COVID-19 บริการนี้ช่วยให้ลูกค้า สามารถชำระค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเช่าต่างๆ โดยใช้บัตรเครดิตซิตี้ พร้อมรับคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด (Citi Rewards) และข้อเสนอพิเศษต่างๆ เช่นเครดิตเงินคืนและของขวัญ
ในขณะเดียวกัน “ซิตี้ไอโฟนฟอร์ไลฟ์ – Citi iPhone for Life” ที่เปิดตัวในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าไม่แพ้กัน แผนงานนี้ ช่วยให้ลูกค้าที่ใช้บริการซิตี้เรดดี้เครดิตสามารถซื้อโทรศัพท์ไอโฟน (iPhone) รุ่นใหม่หรือผลิตภัณฑ์แอปเปิล (Apple) ได้ที่ร้านตัวแทนจัดจำหน่ายของแอปเปิลที่ร่วมรายการ
พร้อมข้อเสนอระบบแบ่งจ่ายรายเดือน 0% และมีอัตราผ่อนต่อเดือนต่ำ พร้อมข้อเสนอในการขายต่อโทรศัพท์ไอโฟน (iPhone) หลังจากนั้น 2 ปี ยอดจำหน่ายผ่านบริการซิตี้เรดดี้เครดิตเติบโตถึง 239% เมื่อเทียบกับยอดการจำหน่ายโทรศัพท์ไอโฟน 11
ตลอดปี 2563 ซิตี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยเห็นได้จากดัชนีชี้วัดการเป็นผู้สนับสนุนของลูกค้า (NPS) ที่ 42.9 คะแนนเพิ่มขึ้น 14% จากคะแนนที่ได้ในปี 2562 และเพิ่มขึ้น 17% จากคะแนนเป้าหมายปี 2563
ปี 2564 ความท้าทายเชิงกลยุทธ์และการปรับปรุงโครงการสิทธิประโยชน์
สำหรับซิตี้ในปี 2564 ยังมีความท้าทายอื่นๆ รออยู่ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ๆ และการเปลี่ยนไปทำธุรกรรมทางการเงินแบบดิจิทัลและแบบไร้เงินสด ซิตี้ตั้งเป้าหมายอย่างมุ่งมั่น ในการปรับตัวเข้าสู่การดำเนินชีวิตแบบ “next normal” เมื่อผ่านพ้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ประการแรก ซิตี้ ได้เซ็นสัญญากับ “ชมพู่” อารยา เอ ฮาร์เก็ต ซูเปอร์สตาร์ชาวไทย ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของบัตรเครดิตซิตี้ เพื่อส่งเสริมเอกลักษณ์ของแบรนด์ และสร้างชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ
ประการที่สอง ซิตี้ เร่งผลักดันโครงการสิทธิประโยชน์หลักของบัตรเครดิตซิตี้ในปี 2564 เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่มีความท้าทายมากขึ้นในการดำเนินชีวิตแบบ “next normal” และในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน โดยมีการเพิ่มคุณสมบัติ และบริการใหม่ของบัตรเครดิตซิตี้ประเภทต่างๆ ในปีนี้ ดังนี้
- บัตรเครดิตซิตี้ เพรสทีจ (Citi Prestige)
- ผู้ถือบัตรฯ จะได้รับคะแนนสะสม 5 เท่าสำหรับทุกการใช้จ่ายออนไลน์ (ตั้งแต่ 1 มีนาคม ถึง 31 สิงหาคม 2564)
- โปรแกรมวันเกิดพร้อมข้อเสนอพิเศษ – เครื่องดื่มชุดน้ำชาและเครื่องดื่มต้อนรับที่ร้าน ทีดับเบิลยูจี (TWG) มูลค่า 1,350 บาท (ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 ธันวาคม 2564)
- บริการลีมูซีนรับ-ส่งสนามบิน สูงสุด 3 ครั้งต่อปี (ตั้งแต่ 1 มีนาคม ถึง 31 ธันวาคม 2564)
- บัตรเครดิตซิตี้ พรีเมียร์ (Citi Premier)
- ผู้ถือบัตรฯ จะได้รับคะแนนสะสม 4 เท่าเมื่อใช้จ่ายในการจัดส่งอาหาร – แกร็บ ไลน์แมน และฟู้ดแพนด้า (Grab, Lineman & Foodpanda) – และการช้อปปิ้งออนไลน์ – ลาซาดา ช็อปปี้ (Lazada, Shopee) (ตั้งแต่ 1 มีนาคม ถึง 31 สิงหาคม 2564)
- บัตรเครดิตซิตี้ รีวอร์ด (Citi Rewards) ผู้ถือบัตรฯ จะได้รับคะแนนสะสม 5 เท่าสำหรับการใช้จ่ายออนไลน์และอีวอลเล็ท (e-Wallet) (ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ถึง 31 มกราคม 2565)
- บัตรเครดิตซิตี้ แคชแบ็ก (Citi Cash Back) ผู้ถือบัตรฯ จะได้รับเครดิตเงินคืน 5% สำหรับการใช้จ่ายที่ร้านค้าเซเว่นอีเลฟเว่น และเครดิตเงินคืน 10% สำหรับการใช้จ่ายที่รถไฟฟ้า บีทีเอส เอ็มอาร์ที (BTS – MRT) และร้านคาเฟ่อเมซอน (Cafe © Amazon) (ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ถึง 31 มกราคม 2565 เป็นต้นไป)
ประการที่สามคือ การจับมือกับพันธมิตรรายใหญ่ ซิตี้ได้มุ่งเน้นความสำคัญของการขยายธุรกิจด้านค้าปลีก เทคโนโลยี ระบบขนส่งสาธารณะ การจัดส่งอาหาร และการเป็นพันธมิตรทางอีคอมเมิร์ซ ในปี 2564 เราได้จับมือกับรถไฟฟ้าใต้ดิน เอ็มอาร์ที (MRT) และเครือข่ายร้านค้าเซเว่นอีเลฟเว่นของซีพีในการดำเนินธุรกิจร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ด้วยความร่วมมือของซิตี้และ บีเอ็มเอ็น ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการในปี 2564 นอกจากสิทธิประโยชน์พิเศษที่มอบให้กับผู้ถือบัตรเครดิตซิตี้ในการใช้จ่ายที่ MRT หรือ ร้านอาหารในเมโทรมอลล์ เรายังได้วางแผนที่จะเปิดศูนย์บริการซิตี้คอร์ป ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 4 สาขาในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน เอ็มอาร์ที เพื่อให้บริการสินเชื่อบุคคลและบริการอื่นๆ
ท้ายสุด “ซิตี้เพย์วิทพอยต์ – Citi Pay with Points” ที่จะช่วยให้ผู้ถือบัตรฯ สามารถเปลี่ยนคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด (Citi Rewards) เป็นเครดิตเงินคืนได้ โดยมีการเพิ่มจำนวนร้านค้าพันธมิตรมากยิ่งขึ้น ซึ่งลูกค้าจะสามารถใช้คะแนนสะสมชำระค่าบริการกับร้านค้าที่ร่วมรายการและแลกเป็นสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น
นวัตกรรมทางดิจิทัล
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกดิจิทัลที่เร่งตัวเร็วขึ้น จากการแพร่ระบาด COVID-19 ซิตี้ กำลังจะมีนวัตกรรมทางดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ และโครงการริเริ่มอื่นๆ ในปี 2564 บริการซิตี้ เพย์ออล (Citi PayAll) หนึ่งในบริการชำระเงินทางดิจิทัล ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของซิตี้ จะได้รับการผลักดันครั้งใหญ่
ในปี 2564 ลูกค้าสามารถชำระค่าเล่าเรียน ค่าเช่า ค่าส่วนกลางคอนโดมิเนียม ค่าสาธารณูปโภค และบริการอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยคุณสมบัตินี้ นับเป็นครั้งแรกที่การชำระเงินประเภทนี้ จะสามารถรับคะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด เครดิตเงินคืนและของขวัญพิเศษได้
ในขณะนี้บริการซิตี้ เพย์ออล รองรับการชำระค่าเช่า และค่าเล่าเรียน ด้วยบัตรเครดิตซิตี้ประเภทที่ร่วมรายการ และบัตรเรดดี้เครดิตทั้งหมด ผู้รับเงิน ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของซิตี้ และจะได้รับเงินในลักษณะการโอนเงินผ่านธนาคารตามปกติ
ซิตี้เพย์เลเตอร์ (Citi Pay Later) นวัตกรรมทางดิจิทัลอีกรูปแบบหนึ่ง ที่จะได้รับการสนับสนุนครั้งใหญ่ในปี 2564 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนการซื้อใดๆ ให้เป็นแผนการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่นได้ การใช้บริการซิตี้เพย์เลเตอร์ ทำได้ง่าย เพียงลงชื่อเข้าใช้ในซิตี้โมบายล์แอปพลิเคชัน (Citibank Mobile Application (R)) และมองหาคำว่า “Pay Later” ในบัตรเครดิต เพื่อเริ่มจัดการแผนทางการเงิน
ทั้งนี้แม้จะมีแรงกดดันจากการแพร่ระบาด COVID-19 ในปี 2563 ซิตี้ ก็สามารถเอาชนะความท้าทายในอุตสาหกรรมนี้ ที่เกิดจากการดำเนินชีวิตแบบ ‘new normal’ ของความคาดหมายและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ด้วยการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานครั้งใหญ่ในนโยบาย สิทธิประโยชน์หลัก การแลกของรางวัล และการเป็นพันธมิตรพิเศษกับร้านค้าต่างๆ ซิตี้ มองเห็นถึงแง่มุมบวกในการเผชิญพายุทางเศรษฐกิจในปี 2564 และจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขี้น