Onlinenewstime.com ความสำเร็จจากความพยายามกว่า 5 ปีของโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ. ประจวบคีรีขันธ์ ในการแก้ปัญหาการจัดการขยะ ดูจะได้รับการยกระดับ และการต่อยอดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลังจากโรงเรียนได้รับการคัดเลือกเป็น “โรงเรียน Best Practice” ภายใต้มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) ส่วนที่ บมจ.ซีพี ออลล์ ดูแล โครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” ซึ่งประสบความสำเร็จ ในการลดขยะจาก 15 ตันต่อเดือน เหลือเพียง 2 กิโลกรัมต่อเดือน กำลังจะได้รับการขยายผลสู่โรงเรียน 392 แห่งทั่วประเทศ
สุดารัตน์ สังข์ฤทธิ์ หรือ ครูต้อ อาจารย์ชำนาญการพิเศษ โรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้ดูแลโครงการ “ต้นกล้าไร้ถัง” เล่าว่า แนวทางการจัดการขยะ ที่นิยมในปัจจุบัน คือการจัดการขยะแบบแยกถัง เน้นมีถังขยะจำนวนมาก และแยกประเภทให้เรียบร้อย แต่แนวทางการจัดการขยะแบบไร้ถัง ซึ่งได้รับความรู้มาจาก ดร.ไพบูลย์ โพธิ์สุวรรณ สถาบันพระปกเกล้า เป็นแนวทางที่สวนทางกับกระแสหลัก
เพราะมุ่งเน้นให้โรงเรียน จัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ลดและเลิกการใช้สิ่งที่กำลังจะกลายมาเป็นขยะ เช่น หลอด จานกระดาษ แก้วน้ำแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การนำสิ่งที่คนมองว่าเป็นขยะมารียูส รีไซเคิล การจัดการวัสดุอินทรีย์ การสร้างความร่วมมือ เพื่อลดขยะกับพ่อค้าแม่ค้าในโรงเรียน
การบ่มเพาะนักเรียนในโรงเรียนกว่า 600 คนให้มีส่วนร่วม ในการจัดการขยะในชีวิตประจำวันตั้งแต่ต้น โดยภายหลังจากเริ่มดำเนินการในปี 2558 โรงเรียนสามารถลดปริมาณขยะลงได้ อย่างต่อเนื่อง จาก 15 ตันต่อเดือน เหลือเพียง 2 กิโลกรัมต่อเดือน โรงเรียนยังได้รับการยกระดับเป็น “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน” เผยแพร่ความรู้ด้านการจัดการขยะไปสู่ชุมชนและโรงเรียนอื่นๆ ด้วย
“เราจะโดดเด่นโดยที่รอบข้างเต็มไปด้วยขยะไม่ได้ ต้องออกโรงช่วยชุมชน โดยการสร้างต้นกล้าในโรงเรียน นั่นคือเยาวชน กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคน กล้าที่จะสวนกระแส กล้าที่จะทำทุกอย่างที่เขาไม่ทำกันเพื่อให้ลดขยะลงได้มากที่สุด” สุดารัตน์ ย้ำ
ด้านธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารออลล์ ออนไลน์ และเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า โรงเรียนอนุบาลทับสะแก ถือเป็น 1 ใน 32 โรงเรียน ที่ได้รับการยกย่องเป็นโรงเรียน Best Practice และถือเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่โรงเรียน ที่จัดทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างโดดเด่น
สำหรับการขยายผลโครงการต้นกล้าไร้ถัง ไปสู่ทั่วประเทศนั้น บริษัทจะเริ่มดำเนินการกับโรงเรียนที่อยู่ในเครือข่ายสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED ภายใต้ความดูแลของซีพี ออลล์ จำนวน 392 โรงเรียน เริ่มจากปีการศึกษา 2563 จำนวน 50 โรงเรียน ปีการศึกษา 2564 เพิ่มเป็น 100 โรงเรียน และปีการศึกษา 2565 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของโครงการสานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED เพิ่มจนครบ 392 โรงเรียน
โดยโรงเรียนอนุบาลทับสะแก จะจัดทำคู่มือการดำเนินงานโครงการต้นกล้าไร้ถัง ให้แก่โรงเรียนต่างๆ แนะนำเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ คอยให้คำแนะนำแก่โรงเรียนต่างๆ อย่างใกล้ชิด และลงไปประเมินผลการดำเนินงาน
ที่ผ่านมา ซีพี ออลล์ และผู้นำรุ่นใหม่ของซีพี ออลล์ (School Partner) ได้ลงพื้นที่ ร่วมสนับสนุนทั้งด้านคำแนะนำและงบประมาณ เพื่อให้โครงการสามารถขยายผลไปได้อย่างรวดเร็ว และสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน สร้างรายได้กลับมาสู่ชุมชน ปัจจุบันมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้ามาเรียนรู้งานจากศูนย์การเรียนรู้ชุมชน สร้างรายได้กลับสู่โรงเรียนและชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า โครงการต้นกล้าไร้ถัง เข้ามาช่วยสร้างประโยชน์ 3 ข้อให้แก่ชุมชน 1. ช่วยสร้างสูตรสำเร็จ ในการบริหารจัดการขยะ ว่าต้องมีการจัดการอย่างไร
2. ช่วยจัดการปัญหาขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน 3. ช่วยปลูกฝังเยาวชนให้มีจิตสาธารณะ สร้างบุคลากรเข้ามาทำงานเรื่องขยะ สร้างการมีส่วนร่วมและนิสัยที่ดีที่จะติดตัวเด็กไปตลอด
“ทุกวันนี้ เทศบาลตำบลทับสะแก ต้องมีหน้าที่ในการเก็บขยะวันละ 7 ตันแล้วนำไปกำจัดที่อำเภอปราณบุรี ต้องเดินทางไปกลับทุกวัน วันละ 240 กิโลเมตร ยิ่งไปกว่านั้นคือในปี 2564 แหล่งกำจัดขยะที่ปราณบุรีจะปิด ซึ่งปกติพี่น้องประชาชนในเทศบาล เขาเสียค่าธรรมเนียม 20 บาท แล้วยกขยะออกมาจากนอกรั้วบ้าน ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเทศบาล
ตอนนี้เราก็ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับเขาว่ าถึงแม้จะ 20 บาทหรือ 200 บาท แต่ว่าอนาคตข้างหน้า มันมีปัญหาเรื่องแหล่งทิ้งขยะ โครงการต้นกล้าไร้ถัง จึงยิ่งมีความสำคัญที่จะช่วยลดปริมาณขยะตั้งแต่ต้นทาง” ปรีดา ระบุ
ด้าน ธนัญชัย สุขสว่าง ผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ได้พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมว่าโรงเรียนขาดเรื่องไหน ต้องทำเรื่องอะไรเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ต่อน้องนักเรียน คุณครู และสังคม โดยพิจารณาจากศักยภาพ และขีดความสามารถ ของโรงเรียน ที่สามารถปฏิบัติได้จริง และส่งดีต่อส่วนรวม โดยจากการลงพื้นที่โรงเรียน พบว่า นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ป.1-ป.6 สามารถเรียนรู้วิธีการจัดการขยะด้วยตัวเอง อย่างน่าประทับใจ
สำหรับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในพันธมิตร ก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) และเป็น 1 ใน 41 องค์กรเอกชน ที่เล็งเห็นความสำคัญ และตอบรับการมีส่วนร่วมทางการศึกษา
โดยปัจจุบัน ซีพี ออลล์ ดูแลโรงเรียนในโครงการ CONNEXT ED จำนวน 392 แห่งทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนโรงเรียน ให้สามารถดำเนินโครงการด้านต่างๆ ทั้งโครงการที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ โครงการพัฒนาคุณภาพคน โครงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โครงการส่งเสริมอาชีพ โครงการด้านสิ่งแวดล้อม
โดยมีผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partner ซึ่งเป็นอาสาสมัครจากในองค์กร ร่วมลงพื้นที่ และคอยให้คำแนะนำในการพัฒนาโครงการของโรงเรียนต่างๆ อย่างใกล้ชิด