onlinenewstime.com : ตั้งเป้า ปี ’63 ดัน 4 ธุรกิจบริการ ร้านอาหาร ดูแลผู้สูงอายุ บริหารทรัพย์สิน และเสริมสวย สร้างรายได้เข้าประเทศ เน้นติดอาวุธผู้ประกอบการครบทุกมิติ
นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “การค้าภาคบริการ เป็นภาคเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศ ในระดับสูง อีกทั้งแนวโน้มความต้องการใช้บริการ ในทุกภาคบริการมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งติดอาวุธด้านการบริหารจัดการธุรกิจ แก่ผู้ประกอบการบริการรายย่อยของไทย 4 ธุรกิจ ได้แก่
- ร้านอาหาร
- ดูแลผู้สูงอายุ
- บริหารทรัพย์สิน
- ร้านเสริมสวย
เพื่อให้สามารถก้าวไปข้างหน้า ด้วยความมั่นคงแข็งแกร่ง โดยเน้นการให้ความรู้เชิงลึกแบบครบทุกมิติ ทั้งการตลาด การบริหารจัดการธุรกิจ การเงินและบัญชี วิธีการจัดการต้นทุนไม่ให้บานปลาย การขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึง กลยุทธ์/เทคนิคการบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด และพร้อมที่จะกลับมาใช้บริการซ้ำ
รวมทั้ง การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบธุรกิจบริการ เพื่อให้เกิดการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และมีโอกาสที่จะพัฒนา เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันในอนาคต”
รมช.พณ.กล่าวเพิ่มเติมว่า “จุดอ่อนสำคัญของธุรกิจบริการไทย คือ การบริหารจัดการธุรกิจ ที่ไม่เป็นระบบ ขาดองค์ความรู้ที่จำเป็น ในการบริหารธุรกิจ เช่น การคำนวณต้นทุน การตลาด การบริหารงานบุคคล การเงินและบัญชี ระบบภาษี ความรู้ด้านกฎหมาย การนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ รวมทั้ง ต้องเผชิญกับภาวการณ์แข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น การเพิ่มพูนองค์ความรู้เชิงลึก แบบครบทุกมิติของธุรกิจบริการ จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจ และเข้าถึงแก่นแท้ของธุรกิจมากขึ้น และมีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสมเหตุผล
ซึ่งจะส่งผลต่อความเข้มแข็งของธุรกิจในระยะยาว และผลประกอบการที่เป็นกำไรในอนาคต พร้อมที่จะขยายและพัฒนาธุรกิจ ให้เติบโตไปในทิศทางที่ถูกต้อง รวมทั้ง ส่งผลต่อการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และมีความเชื่อมโยง กับธุรกิจต่อเนื่องที่หลากหลาย”
“4 ธุรกิจบริการเป้าหมาย เกี่ยวข้องกับสาธารณชนจำนวนมาก เป็นธุรกิจที่กำลังเข้ากระแสนิยม และมีผู้ประกอบการรายย่อย สนใจเข้ามาประกอบธุรกิจจำนวนมาก เช่น ธุรกิจเสริมสวย ถือเป็นธุรกิจฐานราก ที่มีในทุกชุมชน เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม สามารถประกอบธุรกิจได้ง่าย มีตั้งแต่ขนาดเล็ก-ขนาดใหญ่
หรือธุรกิจบริหารทรัพย์สิน ที่พฤติกรรมการดำเนินชีวิต และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ นิยมพักอาศัยคอนโดมิเนียม / อาคารชุดเพิ่มขึ้น รวมทั้ง ปัจจุบันมีการสร้างคอนโดมิเนียม / อาคารชุดมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าวด้วยเช่นกัน ดังนั้น การบริหารจัดการ นิติบุคคลส่วนกลางที่เป็นระบบ และมีมาตรฐานจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก”
“ทั้งนี้ ภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุน ภาคธุรกิจบริการเต็มที่ และจะเป็นตัวกลาง ช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ธุรกิจบริการสาขาต่างๆ ได้รับความสะดวกรวดเร็ว ในการประกอบธุรกิจ
พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการ มีความเข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการสร้างความยั่งยืน ในการประกอบธุรกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ และส่งผลต่อดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ในภาพรวมระดับประเทศต่อไป”
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2562) 4 ธุรกิจบริการเป้าหมาย ที่เป็นนิติบุคคล มีจำนวนทั้งสิ้น 18,102 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 126,808.93 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจร้านอาหาร 15,263 ราย ทุนจดทะเบียน 102,189.24 ล้านบาท ธุรกิจบริหารทรัพย์สิน 2,177 ราย ทุนจดทะเบียน 21,732.43 ล้านบาท ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ 357 ราย ทุนจดทะเบียน 2,195.51 ล้านบาท และธุรกิจเสริมสวย 305 ราย ทุนจดทะเบียน 691.75 ล้านบาท
จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่า ในปี 2561 GDP ภาคบริการของไทยมีมูลค่ากว่า 7.1 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 43.5 ของ GDP ทั้งประเทศ มีจำนวนธุรกิจบริการจำนวน 1.2 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนธุรกิจไทยทั้งหมด
โดยมีการจ้างงานในภาคบริการ จำนวน 6.7 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 45 ของการจ้างงานทั้งประเทศ และมีมูลค่าการส่งออกบริการจำนวน 75,354 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภายในระยะเวลา 6 ปี ที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 12