fbpx
News update

ดีแทคแนะ 6 ทักษะดิจิทัลลดความเหลื่อมล้ำทางเพศในกลุ่มเทคโนโลยี

onlinenewstime.com : ดีแทคเผย 6 ทักษะสำคัญทางดิจิทัล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเพศในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี พร้อมชูนโยบายสนับสนุนความหลากหลายทางเพศในองค์กร เพื่อสร้างวัฒนธรรมเคารพซึ่งกันและกัน และออฟฟิศปลอดภัย หนุนความเท่าเทียมทางเพศ เนื่องในวันสตรีสากล 8 มีนาคม

นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความเท่าเทียมทางเพศในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและโทรคมนาคม เป็นประเด็นที่ได้รับการถกเถียงเป็นวงกว้างในระดับโลก เนื่องจากจำนวนเพศหญิงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียังมีสัดส่วนน้อย เพราะอัตราการเข้าถึงเทคโนโลยีของเพศหญิง ขาดการสนับสนุนของภาครัฐ และการขาดแบบอย่าง (Role model) ในตลาดแรงงาน


นางอเล็กซานดรา ไรช์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

ดังนั้นเพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างเพศที่เกิดขึ้น รัฐบาล มหาวิทยาลัยและเอกชน จึงควรสนับสนุน 6 ทักษะสำคัญทางดิจิทัล เพื่อเป็นการลดช่องว่างระหว่างเพศในภาคเทคโนโลยี อันได้แก่

1. ความรู้ในการใช้คอมพิวเตอร์ (Computer literacy) ที่เป็นจุดเริ่มต้นก่อให้เกิดทักษะทางดิจิทัลแก่ผู้ใช้งาน ถือเป็นบันไดก้าวแรกในการก้าวสู่สายอาชีพทางเทคโนโลยีชั้นสูงต่อไป นอกจากนี้ การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนยังก่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและผู้หญิง และการมีความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์ไอที และความสามารถในการจำแนกความแตกต่างของเทคโนโลยีต่างๆ ได้

2. โปรแกรมมิ่ง (Programming) เป็นทักษะสำคัญในยุคดิจิทัลซึ่งมีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน ในประเทศสหรัฐอเมริกา รายได้ของโปรแกรมเมอร์สูงถึงปีละ 62,860 – 106,580 ดอลลาร์ต่อปี และที่สำคัญทักษะโปรแกรมมิ่ง สามารถฝึกฝนและเรียนรู้ได้จากคอร์สออนไลน์ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีปริญญาในระดับมหาวิทยาลัยรับรอง

3. ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) เป็นทักษะที่มีความสำคัญและมีความต้องการอย่างมากในตลาด เนื่องจากเทคโนโลยี Smart Home ต่างๆ รวมถึงยานยนต์ไร้คนขับ กำลังได้รับการพัฒนาอย่างก้าวหน้าในทุกปีๆ  รวมถึงทักษะที่เกี่ยวเนื่องกับปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่ Machine learning, Deep learning และระบบประมวลภาษาธรรมชาติ (NLP – Neuro Linquistic Programming)

4. เทคโนโลยีเสมือน (Virtual Reality- VR) กำลังเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการใช้งานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมบันเทิงและการแพทย์ การเข้าใจเทคโนโลยีดังกล่าว จะช่วยพัฒนากลยุทธ์และโมเดลทางธุรกิจ ตลอดจนโซลูชั่นใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งผู้หญิงสามารถร่วมกำหนดทิศทางไม่ว่าจะเป็นด้านโปรแกรมมิ่ง กลยุทธ์ทางธุรกิจ และการตลาด

5. วิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Science) เป็นศาสตร์ที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงาน เพื่อประโยชน์ในการทราบความต้องการของลูกค้าและตลาด นอกจากนี้ ยังมีการนำวิทยาศาสตร์ข้อมูลมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสังคมอีกด้วย

6. การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ถือเป็นทักษะสำคัญในยุคดิจิทัล เนื่องจากการทำการตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลมีปริมาณมากขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคหันไปใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้นทักษะที่เกี่ยวกับการตลาดดิจิทัลจึงมีความสำคัญอย่างมาก เช่น SEO, Content marketing, Video search, Video content, Conversion optimization เป็นต้น

“เพื่อลดช่องว่างทางเพศที่เกิดขึ้นในภาคเทคโนโลยี องค์กรต่างๆ จึงควรให้ความสำคัญกับการอบรม ให้คำปรึกษา (Mentorship) และการให้โอกาสที่เท่าเทียม เพื่อให้ผู้หญิงสามารถเข้ามามีส่วนร่วม ในการกำหนดทิศทางของการพัฒนาทางเทคโนโลยีในอนาคต”

นางอเล็กซานดรา กล่าวเสริมว่า เพื่อตอกย้ำจุดยืนของดีแทค ในการสนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่างไม่เพียงเรื่องเพศ แต่ยังรวมไปถึงชาติพันธุ์ ศาสนา ดีแทคจึงได้กำหนดนโยบายต่างๆ ที่สนับสนุนความหลากหลายต่างๆในองค์กร (Diverse workplace) เช่น นโยบายลาคลอด 6 เดือน สิ่งอำนวยความสะดวก การสร้างวัฒนธรรมเคารพในความแตกต่าง และนโยบายออฟฟิศปลอดภัย

“ความแตกต่างทางเพศนั้นจะต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ตลอดจนการพิจารณาการเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งดีแทคได้มุ่งเน้นให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างเพศชายและหญิงผ่านนโยบายต่างๆ ที่สร้างสมดุล และเอื้อให้เกิดสภาวะการทำงานที่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ

ตัวอย่างเช่น นโยบายลาคลอด 6 เดือน ซึ่งดีแทคถือเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้พนักงานที่มีบุตรสามารถลาคลอดได้ 6 เดือน โดยยังรับเงินเดือนเต็มอัตรา การอำนวยความสะดวกของคุณแม่ผ่านห้องให้นมบุตร ห้องเด็กเล่นเป็นต้น”

นอกจากนี้ ดีแทคยังมีแนวนโยบายในการสร้างออฟฟิศปลอดภัย ผ่านการให้ความรู้และขั้นตอนการรายงานเมื่อเกิดเหตุ เพื่อป้องกันการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน (Prevention to Sexual Harassment) ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งขององค์กร โดยนางอเล็กซานดราทิ้งท้ายว่า

“การให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน จะเป็นกุญแจสำคัญของการความหลากหลาย และการอยู่ร่วมกันในองค์กร และก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า”