fbpx
News update

บุญรอดฯ รุกธุรกิจอาหาร ยก FOOD FACTORS เป็น 1 ใน 6 PILLAR หลัก

onlinenewstime.com : หลังการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ ของกลุ่มบุญรอดบริวเวอรี่ ผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มของไทย โดยมุ่งแสวงหาโอกาส ขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งมี 6 เสาหลัก ที่เป็นหัวหอก สร้างการเติบโตขององค์กร

ประกอบด้วย 1. ธุรกิจเบียร์ โซดา และน้ำดื่ม 2. กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์บางกอกกล๊าส 3. ธุรกิจระดับภูมิภาค (รีจินัล)ภายใต้ สิงห์ เอเชีย โฮลดิ้ง 4. อสังหาริมทรัพย์ โดยสิงห์เอสเตท 5. ธุรกิจซัพพลายเชน ภายใต้บุญรอดซัพพลายเชน และ 6. ธุรกิจอาหาร โดยฟู้ด แฟ็คเตอร์ส

ปิติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ด แฟ็คเตอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากกลุ่มบุญรอดฯ ปรับโครงสร้างธุรกิจ ขยายสู่เสาหลักใหม่ ใน 1 ปีที่ผ่านมา ตนได้ทำหน้าที่ดูแล 2 เสาหลัก ได้แก่ ซัพพลายเชน และธุรกิจอาหาร

โดยธุรกิจอาหาร วางแผนบุก การผลิตสินค้าคุณภาพ ตอบสนองความต้องการผู้บริโภค เพื่อสร้างการเติบโตภายใน 3 ปี  สำหรับแผนธุรกิจเบื้องต้น มีการปรับโครงสร้างธุรกิจอาหาร เพื่อให้มีศักยภาพ และความแข็งแกร่งมากขึ้น

โดยมีการรวบรวม บริษัทในเครือทั้งหมด ที่เคยแยกกันบริหารงาน ผลิตสินค้าสร้างยอดขาย ประมาณ 400-500 ล้านบาทต่อบริษัท มาอยู่ภายใต้ “ฟู้ด แฟ็คเตอร์ส” อาทิ ธุรกิจข้าวถุงพันดี,  ร้านอาหารเอส33, ร้านฟาร์มดีไซน์, ร้านอาหารญี่ปุ่น Kitaohji, โรงงานผลิตสินค้ากลุ่มอาหารเฮสโก ฟู้ด อินดัสทรี และเฮสโก โซลูชั่น, โรงงานผลิตเครื่องดื่มวราฟู้ดส์ เป็นต้น และ ได้รวมทีมงาน ให้มาอยู่ในศูนย์กลาง ประมาณ 150 คน เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในเชิงรุก

ทั้งนี้ การผนึกกำลังกัน ของกลุ่มธุรกิจอาหาร ส่งผลให้ขนาดของธุรกิจ ใหญ่ขึ้น และประมาณการรายได้รวม 4,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ภายใน 3 ปีข้างหน้า บริษัทต้องการผลักดันรายได้ ให้กลับไปยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท มีอัตรากำไรสุทธิ 8-15% สอดคล้องกับมาตรฐานธุรกิจ และตั้งเป้าทะยานสู่ระดับ 10,000 ล้านบาท จากนั้นจะนำบริษัท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุน ต่อยอดการเติบโตธุรกิจต่อไป

สำหรับแผน ในการมุ่งสร้างรายได้ ให้เป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทวางแผน ในการวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ ออกสู่ตลาดในหมวดหมู่สินค้า เช่น สินค้าพร้อมรับประทาน (Ready to eat :RTE) อาหารพร้อมปรุง (Ready to cook :RTC) เนื่องจากบริษัท มีการสร้างห้องปฏิบัติการด้านอาหาร (Food Lab) ไว้รองรับการพัฒนาสินค้าเรียบร้อยแล้ว ด้านโรงงานผลิตสินค้า ยังมีพื้นที่ในการขยายกำลังการผลิตสินค้าในเครือ และรับจ้างผลิตสินค้านอกเครือ (OEM) ให้กับแบรนด์ไทย และต่างประเทศ

บริษัทยังมองโอกาสในการซื้อ และควบรวมกิจการ(M&A) การร่วมทุน(Joint venture) ถือหุ้นส่วนน้อยและส่วนมาก รวมถึงการเป็นพันธมิตร กับธุรกิจอาหารแบรนด์อื่นๆเพิ่มเติม เพื่อขยายตลาด สร้างการเติบโต 

“จากนโยบาย นายสันติ ภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ต้องการให้เราขยายสู่ธุรกิจใหม่ๆมากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโต อย่างยั่งยืนระยะยาว ส่วนการขยายธุรกิจอาหาร ผมได้โจทย์สำคัญ คือต้องทำให้บริษัท Take off ให้ได้ภายใน 3 ปี

โดยวิธีการจะไปให้ถึงเป้าหมาย เริ่มจากการปรับโครงสร้างองค์กร และสินค้า วางแผนพัฒนาสินค้าใหม่  ขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า ให้กว้างขวางครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย วางแผนในการเป็นพันธมิตร ทางธุรกิจกับแบรนด์อื่นๆ ขณะที่หัวใจของการทำธุรกิจอาหาร เบื้องต้นจะต้องผลิตสินค้าอร่อย มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค”

“ธุรกิจอาหาร มีการเติบโตทุกเซ็กเมนต์ มากน้อยแตกต่างกันไป โดยตลาดที่มีมูลค่าระดับ 9 หมื่นล้านบาท อาจโตไม่มาก ส่วนตลาดที่มีขนาด 2-3 หมื่นล้านบาท สามารถเติบโตในอัตรา 2 หลัก เช่น กลุ่มอาหารพร้อมปรุงและพร้อมทาน”

ปิติ กล่าวเสริมว่า ฟู้ด แฟ็คเตอร์ส ก่อตั้งมาประมาณ 1 ปีเศษ การปรับโครงสร้างครั้งนี้ แล้วเสร็จ 95% โดยที่ผ่านมา บริษัทมีการขออนุมัติกรอบวงเงินเพื่อลงทุน 2,500 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจภายใน 3 ปี ซึ่งขณะนี้ เหลือระยะเวลาอีกประมาณ 1 ปีครึ่ง และการรุกหนักธุรกิจอาหาร บริษัทจึงมองกรอบการลงทุนขั้นต่ำ ประมาณ 5,000-8,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในอนาคต และนอกจากนี้ ยังจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม ในการวิจัยและพัฒนาสินค้าด้านอาหาร (Food Innovation Center) โดยมีทีมงานวิจัยมืออาชีพในการคิดค้น นำเสนอสินค้าใหม่ ภายใต้การผลิต ที่ใช้เทคโนยีทันสมัย รองรับความต้องการลูกค้าได้อย่างหลากหลาย ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในแผนระยะยาว ยังมองการพัฒนา นิคมอุตสาหกรรมอาหาร บนพื้นที่ 2,000 ไร่ จังหวัดอ่างทอง เพื่อให้การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ครบวงจรในพื้นที่เดียว