อาการผิดปกติของรถ และอุปกรณ์ประจำรถ ถือเป็นสัญญาณเตือน ให้ผู้ขับขี่นำรถไปตรวจสอบ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพราะความบกพร่องของรถยนต์ อาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้
อาการผิดปกติของรถ
- สัญลักษณ์ไฟเตือน บนแผงหน้าปัดรถ แสดงว่าอุปกรณ์ประจำรถชำรุด
- กลิ่นเหม็นไหม้ อาจเกิดจากผ้าเบรก สายพาน ลูกสูบไหม้ ท่อไอเสียแตก หรือระบบไฟฟ้าขัดข้อง
- เสียงดังแปลกๆ อาจเกิดจากเครื่องยนต์ผิดปกติ หรือผ้าเบรกใกล้หมด
- มีควันสีขาวออกมาจากท่อไอเสีย เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าระบบหล่อเย็นของเครื่องยนต์มีปัญหา
- มีรอยน้ำหรือน้ำมันหยดที่พื้น อาจเกิดจากหม้อน้ำรั่ว น้ำมันเบรกรั่ว หรือน้ำมันรั่ว
- สตาร์ทเครื่องยนต์นานกว่าปกติ อาจเกิดจากแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพหรือใกล้หมด
- เร่งเครื่องไม่ขึ้น เป็นสัญญาณเตือนว่า ถึงกำหนดเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ หรือกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
- เครื่องยนต์สั่นจนดับ อาจเกิดจากเครื่องยนต์เดินรอบไม่ถูก ให้ลองสตาร์ทรถและเร่งเครื่องให้แรงขึ้น
- ช่วงล่างแข็งกระด้าง อาจเกิดจากโช๊คอัพเสื่อมสภาพ หรือลมยางอ่อน
อาการผิดปกติของอุปกรณ์ประจำรถ
- พวงมาลัย บังคับทิศทางยาก โดยเฉพาะขณะเลี้ยวรถ พวงมาลัยมีอาการสั่น หรือหนักผิดปกติ
- เกียร์ มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ยาก เหยียบคลัตช์เข้าเกียร์แล้วมีเสียงดัง
- คลัตช์ มีเสียงดังผิดปกติ คลัตช์ลื่น จม และไม่เด้งกลับ หรือแป้นคลัตช์สั่น
- เบรก ไม่สามารถหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย เบรกลื่น เบรกแล้วรถมีอาการปัด แป้นเบรกจม เบรกมีเสียงดัง
- ยาง ดอกยางสึกหรอ ร่องยางตื้น ยางมีรอยปริแตก ลมยางอ่อนบ่อยครั้ง
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฝากเตือนผู้ขับขี่หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของรถและการทำงานของอุปกรณ์ประจำรถ หากรถมีอาการผิดปกติ ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ เพื่อตรวจสอบสภาพรถและซ่อมแซมในทันที จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากความบกพร่องของอุปกรณ์ประจำรถ
ที่มา : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย