onlinenewstime.com : กระทรวงพาณิชย์ ผนึกกำลัง หน่วยงานพันธมิตร เดินหน้าปราบปรามนอมินีอย่างจริงจัง เน้นเป้าหมาย 5 กลุ่มธุรกิจ ท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง ค้าที่ดิน-อสังหาฯ เกษตร ขนส่งสินค้า และโฆษณา
โดยกำหนดลงพื้นที่ 9 จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญ ที่ชาวต่างชาตินิยมลงทุน+ประกอบธุรกิจ เบื้องต้น ภูเก็ต และเชียงใหม่ ยังไม่พบการกระทำที่เข้าข่าย
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กรมฯ ได้ร่วมมือกับ กรมการท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังลงพื้นที่ ตรวจสอบธุรกิจ ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับชาวต่างชาติ ในการใช้คนไทยเป็นนอมินี โดยได้บูรณาการข้อมูล และกำหนดกลุ่มธุรกิจเป้าหมายเชิงลึก ก่อนลงตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย”
ซึ่งในปี 2562 นี้ ได้ร่วมกันกำหนด ธุรกิจเป้าหมาย เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ จำนวน 5 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย 1) ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยว 2) ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ การถือครองอสังหาริมทรัพย์ 3) ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร 4) ธุรกิจขนส่งสินค้า และ 5) ธุรกิจโฆษณา
“กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตร ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ ตามแผนปฏิบัติการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น จำนวน 4 จังหวัด ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และมีชาวต่างชาติ นิยมลงทุนประกอบธุรกิจ ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) และกระบี่
โดยจังหวัดภูเก็ต ได้ตรวจสอบธุรกิจ จำนวน 69 ราย และออกหนังสือ ให้จัดส่งเอกสารเกี่ยวกับการลงทุน จำนวน 91 ราย จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบธุรกิจ จำนวน 39 ราย และออกหนังสือให้จัดส่งเอกสารฯ จำนวน 52 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ตรวจสอบธุรกิจ จำนวน 44 ราย และออกหนังสือให้จัดส่งเอกสารฯ จำนวน 70 ราย จังหวัดกระบี่ ตรวจสอบธุรกิจ จำนวน 30 ราย และออกหนังสือให้จัดส่งเอกสารฯ จำนวน 36 ราย”
“ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ ยังไม่พบการกระทำผิด ที่เข้าข่ายนอมินี แต่มีนิติบุคคลที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียก ให้จัดส่งเอกสารฯ จำนวน 24 ราย จึงได้ดำเนินคดี ฐานฝ่าฝืนไม่ส่งเอกสาร ตามที่เรียกตรวจสอบตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้ทำการหมายเหตุ ในหนังสือรับรองว่า “นิติบุคคลนี้ไม่จัดส่งบัญชี และ/หรือไม่ชี้แจงการจัดทำบัญชีรอบปีบัญชี 2560 โปรดใช้ความระมัดระวังในการทำนิติกรรม” สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) และกระบี่ เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบเอกสารเชิงลึกอยู่ และคาดว่าผลการตรวจสอบจะปรากฏในเร็วๆ นี้
ขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการลงพื้นที่ จังหวัดชลบุรีเพื่อตรวจสอบนอมินี และมีแผนที่จะลงตรวจสอบอีก 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตราด (เกาะช้าง) กรุงเทพมหานคร ประจวบคีรีขันธ์ และ เพชรบุรี ซึ่งหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะส่งดำเนินคดี ให้ถึงที่สุดทุกราย เพื่อปราบปราม ไม่ให้มีการใช้ตัวแทนอำพราง และอาจลงพื้นที่เดิมซ้ำ หรือพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมหากพบว่ามีข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจ ที่เข้าข่ายเป็นนอมินี”
“ปัญหาเรื่องนอมินี เป็นปัญหาใหญ่ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศในวงกว้าง หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จะทำให้ไทยเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ และสูญเสียรายได้เป็นอย่างมาก
ดังนั้น กรมฯ จึงขอเตือนคนไทย ที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าว สามารถประกอบธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้ คนต่างด้าวที่ให้คนไทยถือหุ้นแทน รวมทั้งกรรมการบริษัท ก็ต้องรับผิดด้วย ซึ่งจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 – 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวัน อีกวันละ 10,000 – 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน”