Onlinenewstime.com : ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย วาง 5 มาตรการสนับสนุนการใช้ “กัญชา” อย่างปลอดภัย เน้นให้ความรู้การนำไปใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ ควบคุมด้วยกฎหมายให้กลิ่นและควันเป็นเหตุรำคาญ ควบคุมการเข้าถึงใน 3 กลุ่ม วางระบบรายงานการเฝ้าระวังผลกระทบ ยังไม่พบการรับพิษจากกัญชาหรือด้านจิตประสาทมากขึ้น ส่วนการใช้ทางการแพทย์มีผลข้างเคียงน้อยมาก พร้อมวางระบบดูแลรักษาทุกจังหวัด กรณีฝ่าฝืนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการ
วันนี้ (30 มิถุนายน 2565) ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพ ไม่ได้สนับสนุนเรื่องของการสูบ การเสพ หรือการสันทนาการ
โดยมีการวางมาตรการ 5 ด้านเพื่อสนับสนุนการใช้กัญชาอย่างปลอดภัย คือ
1. การส่งเสริมการใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ ให้ความรู้ประชาชนทั้งเรื่องประโยชน์ เรื่องโทษ และการใช้อย่างเหมาะสมต่อสุขภาพ โดยจัดทำคู่มือการใช้กัญชาอย่างเข้าใจ และมีแนวทางการใช้กัญชาทางการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย
2. การควบคุมด้วยกฎหมาย ขณะนี้มีกฎหมายควบคุมการเสพที่สาธารณะ เรื่องกลิ่นและควันเป็นเหตุรำคาญ มีการออกประกาศไม่ให้ใช้ในผู้ที่ต่ำกว่าอายุ 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร และยังมีตัวแทนร่วมเป็นกรรมาธิการปรับแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา พ.ศ. … ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้นโยบายชัดเจนว่าต้องสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ ไม่สนับสนุนการเสพและสันทนาการ จึงต้องขับเคลื่อนให้มีการควบคุมป้องกันในกฎหมายกัญชงกัญชา
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า 3. การเฝ้าระวังป้องกันการใช้ในทางที่ผิด โดยวางระบบรายงานเฝ้าระวังผลการใช้กัญชา ทั้งพิษจากกัญชาหรือปัญหาทางด้านจิตประสาท ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่ายังไม่ได้พบมากขึ้น ส่วนระบบรายงานการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยที่มีอยู่เดิม มีการรายงานอาการไม่พึงประสงค์หรือผลข้างเคียงจากการใช้กัญชาทางการแพทย์เพียง 1% และเป็นกลุ่มที่อาการเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการใช้อย่างควบคุม
4. การวางระบบการดูแลรักษาพยาบาลและบำบัดรักษา ขณะนี้มีกลุ่มงานสุขภาพจิตและยาเสพติดทุกจังหวัดที่เปิดหอผู้ป่วยรองรับการดูแล และ
5.การกำกับติดตามผลการขับเคลื่อนตามมาตรการที่กำหนด
“สำหรับกรณีที่ไม่ได้ใช้ผ่านการควบคุมหรือไม่เป็นไปตามนโยบายหรือวัตถุประสงค์ของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเรามีกฎหมายป้องปรามไว้แล้ว หากมีการฝ่าฝืน เช่น เสพ มวนขาย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนเรื่องของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม อย.จะติดตามตรวจสอบหลังการอนุญาตให้มีการใส่สารสกัดกัญชาตามกฎหมายกำหนด โดยในช่วงรอยต่อนี้จะมีการตรวจติดตามอย่างเข้มงวด” นพ.เกียรติภูมิกล่าว