ปัญหากระดูกสันหลังไม่ใช่เรื่องเล็ก หากมีอาการปวดหลังเพียงไม่นานแล้วหายได้จากการดูแลตัวเองคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ถ้าปวดหลังเรื้อรังเป็นเวลานานและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอาการจากโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หรือโพรงประสาทตีบแคบทับเส้นประสาท รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์ด้านกระดูกสันหลัง
นายแพทย์สาริจฉ์ ศรีสุภาพ ผู้อำนวยการสถาบันโรคกระดูกสันหลังกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวถึงปัญหาของโรคกระดูกสันหลังว่า แนวโน้มการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บกระดูกสันหลังของคนไทยมีเพิ่มขึ้นเพราะไม่ว่าจะอยู่ในวัยทำงาน หรือวัยกลางคนก็สามารถพบปัญหาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาทได้ จากการใช้ชีวิตประจำวันของคนในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในท่าที่ไม่ถูกต้อง การนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ การยกของที่หนัก การก้มหรือบิดเอี้ยวตัวผิดท่า
รวมทั้งการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุ ทำให้เกิดอาการปวดเฉียบพลันและรุนแรง จนไม่สามารถลุกเดินหรือช่วยเหลือตัวเองได้ อาการปวดที่รุนแรงไม่ได้บ่งชี้ว่าต้องผ่าตัดเสมอไป
โดยส่วนใหญ่โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทมีวิธีการรักษาให้หายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์จึงมีหลายทางเลือกในการรักษาโรคทางกระดูกสันหลังแก่ผู้ป่วยมากขึ้น ประกอบด้วย
1.การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด (Non Operative Treatment) เป็นการรักษาด้วยวิธีการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยฟื้นคืนความแข็งแรงและความสามารถในการเคลื่อนไหว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของคนไข้ รวมถึงการให้ยาเพื่อบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เป็นสำคัญ หากอาการต่างๆ ยังไม่ทุเลาลง จึงค่อยทำการรักษาขั้นถัดไป
2.วิธีระงับความปวด (Spinal Intervention) ตัวช่วยในการวินิจฉัยหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา (Pain Intervention) และเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดตำแหน่งของความปวดหากต้องเข้ารับการผ่าตัด ช่วยให้แพทย์ผ่าตัดทราบบริเวณที่จะผ่าได้จำเพาะเจาะจงมากขึ้น และไม่ต้องผ่าตัดกว้างเกินความจำเป็น
“ถ้าคนไข้มีอาการปวดหลัง อันดับแรกแพทย์ต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าจุดกำเนิดหรือสาเหตุของความปวดมาจากอะไร การใช้ยารับประทานเพื่อแก้ปวดอาจช่วยทุเลาอาการได้ แต่หากสาเหตุของอาการปวดยังคงอยู่ อาการปวดก็จะกลับมาอีก ซึ่งคนไข้แต่ละคนอาจให้คำจำกัดความของอาการปวดที่แตกต่างกัน แพทย์จึงต้องรับฟังและนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อประกอบการวินิจฉัยให้กับผู้ป่วยแต่ละราย”
การดูเพียงภาพจากรังสีวินิจฉัยอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ Pain Intervention จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยวินิจฉัย เพื่อหาตำแหน่งเส้นประสาทและระดับของกระดูกสันหลังที่มีปัญหาแล้วเริ่มต้นรักษา อาทิ การฉีดยาลดการอักเสบแบบตรงจุด หรือใช้การจี้เส้นประสาทด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง ถ้าการฉีดยายังไม่ได้ผลจึงจะพิจารณาเรื่องการผ่าตัดเพื่อช่วยบรรเทาอาการให้ทุเลาลง
3.การผ่าตัดกระดูกสันหลังแผลเล็ก (Minimally Invasive Spine Surgery : MISS) เป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดแผลเล็ก ที่ช่วยให้คนไข้เสียเลือดน้อย ลดการทำลายโครงสร้างกระดูกสันหลัง เนื้อเยื่อข้างเคียงบาดเจ็บน้อยลง ช่วยให้การฟื้นตัวเร็วขึ้นกว่าการผ่าตัดเปิดแผลกว้าง ประกอบด้วย 3 วิธี
1) Microscopic Discectomy เป็นการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กแบบมาตรฐาน ด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscope) ที่มีกำลังขยายมากกว่าปกติ 20 – 100 เท่า ทำให้ศัลยแพทย์มองเห็นรายละเอียด เส้นประสาท และพยาธิสภาพที่ต้องการแก้ไขได้ชัดเจน โดยใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ โอ-อาร์ม (O-ARM) เก็บข้อมูลเอกซเรย์สามมิติ และระบบนำวิถี (Stealth Navigation System) ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้จากโอ-อาร์มมาช่วยให้ศัลยแพทย์ประเมินระยะที่สามารถเข้าถึงบริเวณที่ต้องการผ่าตัดได้ในระดับมิลลิเมตร จึงช่วยให้ศัลยแพทย์กระดูกสันหลังผ่าตัดได้แม่นยำยิ่งขึ้น
เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องติดตามการทำงานของระบบประสาทขณะผ่าตัด (Intraoperative Neurological Monitoring – IOM) ป้องกันเส้นประสาทบาดเจ็บขณะผ่าตัด จึงช่วยให้สามารถผ่าตัดในจุดที่ต้องการได้มีประสิทธิภาพ แผลมีขนาดเล็กประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร ผู้ป่วยที่เหมาะกับการผ่าตัดด้วยเทคโนโลยี Microscopic Discectomy ได้แก่ ผู้ป่วยโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทในคนวัยทำงาน ผู้ป่วยโพรงประสาทตีบแคบทับเส้นประสาทจากภาวะเสื่อมของกระดูกสันหลัง ข้อต่อ และหมอนรองกระดูกสันหลังในผู้สูงอายุ เป็นต้น
2) Microendoscopic Discectomy เป็นการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็ก โดยใช้ท่อโลหะขยายทางเข้าของช่องทางผ่าตัด จากนั้นส่องกล้องเข้าไปในโพรงแผลที่มีขนาดเล็ก เพื่อเข้าไปผ่าตัดในตำแหน่งที่ต้องการ วิธีนี้แผลผ่าตัดมีขนาด 0.5 – 2 ซม. ลดการทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียงโดยไม่จำเป็น และต้องอาศัยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์
3) Endoscopic Discectomy เป็นการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเล็กด้วยกล้องเอ็นโดสโคป (Endoscope) แผลผ่าตัดมีขนาดประมาณ 0.8 เซนติเมตรผ่านท่อขนาดเล็กเพียงแผลเดียว (Single Port) มีการใช้คลื่นความถี่วิทยุช่วยจี้หยุดเลือดขณะศัลยแพทย์ผ่าตัด โดยมองผ่านจอภาพแสดงผลเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจน ช่วยให้ใช้เวลาในการผ่าตัดสั้นลง ผ่าตัดรักษาแก้ปัญหาได้ตรงตามตำแหน่งที่ต้องการ
วิธีนี้ช่วยให้กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อโดยรอบบาดเจ็บน้อย เสียเลือดน้อย ลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อน ฟื้นตัวเร็ว แต่ยังมีข้อจำกัดในการผ่าตัดที่ทำได้ในพื้นที่จำกัด ไม่เหมาะที่จะทำในคนไข้ที่มีกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทหลายๆ ข้อ หรือภาวะกระดูกสันหลังไม่มั่นคง เป็นต้น
สถาบันโรคกระดูกสันหลังกรุงเทพ คำนึงถึงผู้ป่วยเป็นสำคัญ เน้นการทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยผู้ป่วย ญาติ และแพทย์คือทีมเดียวกัน ทุกคนมีส่วนร่วมในการรับรู้รายละเอียดในการรักษา การตัดสินใจเลือกแนวทางการรักษา การวางแผนตั้งแต่ก่อนและหลังการผ่าตัดร่วมกัน ที่สำคัญคือ การให้ข้อมูลแก่คนไข้และญาติก่อนผ่าตัด การผ่าตัดมีความเสี่ยงอย่างไรและจะแก้ไขความเสี่ยงนั้นได้อย่างไร รวมถึงวิธีปฏิบัติตัวของคนไข้เพื่อให้การรักษาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 1719