Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

“ปอร์เช่”เตรียมเปิดตัว“รถพลังงานไฟฟ้า”สมบูรณ์แบบปี 62

Taycan

รถสปอร์ตสัญชาตเยอรมัน ปอร์เช่  มีกำหนดการวางตลาด “รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ”  ในช่วงต้นปีหน้า และในระหว่างการจัดเตรียมงานเปิดตัว ยนตรกรรมไฟฟ้าสมบูรณ์แบบครั้งแรกของเปอร์เช่ ได้รับการขนานนามอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า จาก มิชชั่น อี (Mission E) สู่ ไทคานน์ (Taycan) ซึ่งมีความหมายว่า “อาชาหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยความคึกคะนอง” สะท้อน ให้เห็นภาพของม้าศึกที่เป็นตราสัญลักษณ์ของปอร์เช่  ซึ่งถือกำเนิดขึ้นมายาวนานนับตั้งแต่ปี 1952

ในด้านของการผลิต รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบของเปอร์เช่ ยังมีการขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว เพื่อรองรับอนาคตด้วยเม็ดเงินก้อนใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในอนาคตตามแผนกลยุทธ์การพัฒนา

ภายในปี 2022 บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแนวหน้าของโลกแห่งนี้จะใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้นมากกว่า 6,000 ล้านยูโรสำหรับการสร้างสรรค์ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า งบประมาณที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3,000 ล้านยูโรนั้น ส่วนหนึ่งราว 500 ล้านยูโรจะถูกนำไปใช้สำหรับโครงการพัฒนาปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan)

 

 

รวมถึงรุ่นอื่นๆ ภายใต้อนุกรมเดียวกัน และประมาณ 1,000 ล้านยูโรจะถูกใช้เป็นงบประมาณ ในการเสริมศักยภาพด้านระบบขับ เคลื่อนไฟฟ้าและระบบไฮบริดในรถยนต์รุ่นปัจจุบัน และอีกหลายร้อยล้านยูโรสำหรับค่าใช้จ่ายในการขยายโรงงานผลิต ส่วน 700 ล้านยูโรจะถูกใช้เพื่อการค้นคว้านวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของระบบชาร์จ พลังงานรวมไปถึงระบบยานยนต์อัจฉริยะ

เมื่อโฟกัสไปที่เครื่องยนต์ “รถสปอร์ตพลังงาน ไฟฟ้าของเปอร์เช่ จะมาพร้อมด้วย เครื่องยนต์ขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง 2 ตัวแบบ Permanently Excited Synchronous Motors (PSM) เมื่อทำงาน ร่วมกันสามารถผลิตกำลังสูงสุดได้มากกว่า 600 แรงม้า (440 กิโลวัตต์) ส่งผลให้รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันนี้มีอัตรา เร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 3.5 วินาที และพุ่งทะยานสู่ความเร็ว สูงสุดถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 12 วินาที

ด้วยสมรรถนะที่เกิดขึ้นนี้ โดยข้อได้เปรียบของการถ่าย ทอดกำลังขับเคลื่อนที่ต่อเนื่องอันเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า: การเร่งออกตัวที่ฉับไวมีที่มาจากประสิทธิภาพการทำงานของส่วนประกอบ ซึ่งปราศจากการสูญเสียใดๆ ในระบบโดยสามารถเดินทางไกลมากกว่า 500 กิโลเมตรเมื่อเทียบตามมาตรฐานของ การวัดค่าไอเสียและอัตราสิ้นเปลืองในการขับขี่ของยุโรปหรือ NEDC  (New European Driving Cycle)

 

Exit mobile version