onlinenewstime.com : Facebook ยังฮอต รายได้โฆษณาขึ้นสูงถึง 16.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยผลพวงจาก Instagram และ Stories
หลังจากประสบปัญหาหนักหน่วง เรื่องความผิดพลาดในการจัดการข้อมูล และการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งเกิดกระแสการวิพากย์อย่างต่อเนื่อง และยาวนานกว่าหนึ่งปี Facebook ได้ออกมารายงานผลประกอบการไตรมาสสี่ของปี 2018 โดยแสดงให้เห็นผลกำไรจากโฆษณา ที่ดูเหมือนไม่ได้รับผลกระทบใดๆจากเรื่องดังกล่าวเลย
Facebook รายงานผลประกอบการปี 2018 เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมีรายได้โฆษณาที่ 16.6 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสสุดท้ายของปี เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบปีต่อปี และมีตัวเลขผู้ใช้งาน active รายวัน (Daily active user – DAU) ที่ 1.52 พันล้านราย เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบปีต่อปี
จากการรายงานแสดงให้เห็นว่า ราคาเฉลี่ยต่อโฆษณาลดลง 2% ในไตรมาสที่สี่ โดยจำนวนการแสดงผลโฆษณาทั่วทั้งแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น 34% ซึ่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ Facebook กล่าวว่าการเติบโตของการแสดงผลส่วนใหญ่มาจากโฆษณาบน Instagram feed และ Stories รวมทั้งโฆษณาใน News Feed ของ Facebook ซึ่งแน่นอนว่า Facebook มีแผนทำงานเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มรายได้สำหรับสัดส่วนนี้ในอนาคต
อัตราการเติบโตของผู้ใช้ Facebook, Instagram และ WhatsApp นั้น Facebook มีตัวเลขที่ 1.52 พันล้าน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ 2.3 พันล้านผู้ใช้งานรายเดือน โดยใน 1.52 พันล้านคนทั่วโลกนั้น มีถึง 186 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา และแคนาดา ซึ่ง Facebook ประมาณการว่ามีคนกว่า 2.7 พันล้านคนทั่วโลกที่ใช้งาน Facebook, Instagram, WhatsApp หรือ Messenger อย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์มในทุกๆวัน
ทำไมเราต้องให้ความสนใจกับเรื่องนี้ นั่นเพราะตัวเลขผลประกอบการของ Facebook แสดงให้เห็นว่าปัญหาอื้อฉาว เรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่เรื้อรังยาวนานในปีที่ผ่านมา ไม่ได้ระคายเคือง หรือมีผลกระทบอะไรกับธุรกิจโฆษณาของ Facebook เลย ยิ่งไปกว่านั้น ราคาโฆษณาเฉลี่ยที่ลดลง และการแสดงโฆษณาที่เพิ่มขึ้นนั้น ยังจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับนักการตลาดที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาต่อเม็ดเงินอีกด้วย
Cr. Martechtoday.com