Onlinenewstime.com : “มาชิตะ” ดึงรสชาติเมนูฮิตจากย่านดังประเทศเกาหลี สู่การพัฒนาสาหร่ายอบสไตล์เกาหลี ชูคอนเซ็ปท์ The Taste of Seoul อร่อยฟินสไตล์สตรีทโซล เสิร์ฟ 2 รสชาติใหม่ “มาชิตะรสไก่เผ็ดเกาหลีเมียงดง” และ “มาชิตะรสหมึกผัดซอสเผ็ดฮงแด” เกาะกระแสแรง K-Pop เจาะผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ย้ำจุดแข็งวัตถุดิบสาหร่ายคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมจากประเทศเกาหลี และไม่ใส่ผงชูรส(No msg)
นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดสาหร่ายประเภทอบมีแนวโน้มการเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพ การเลือกบริโภคสาหร่ายจะดูปริมาณแคลอรี่และคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น และ “มาชิตะ” ในฐานะผู้นำตลาดสาหร่ายอบ และเป็นต้นตำรับที่นำวัตถุดิบสาหร่ายแท้ๆจากประเทศเกาหลี และไม่ใส่ผงชูรส(No msg) เดินหน้าปล่อยหมัดเด็ดการตลาดส่งท้ายปี นำเมนูยอดฮิต จากแหล่งกินเที่ยวสตรีทย่านดังของประเทศเกาหลีอย่าง ย่านเมียงดงและฮงแด สู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ 2 รสชาติใหม่ ชูความเป็นต้นตำรับ หรือเมนูแห่งชาติเกาหลี The Taste of Seoul ได้แก่ มาชิตะรสไก่เผ็ดเกาหลีเมียงดง และมาชิตะรสหมึกผัดซอสเผ็ดฮงแด เพื่อเสิร์ฟกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ แบรนด์เล็งเห็นถึงเทรนด์เกาหลีที่ยังคงมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะคนเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่เปิดรับวัฒนธรรมอาหาร การกิน ฟังเพลง ดูซีรีส์เกาหลี รวมถึงเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีกันมากขึ้น เมื่อดูอินไซต์การบริโภค อาหารเกาหลีได้รับความนิยมมาก เช่น ปิ้งย่าง คิมบับ ไก่ทอดซอสเกาหลี กิมจิ ฯลฯ โดยมาชิตะรสชาติใหม่สไตล์สตรีทเกาหลี จะสร้างความแปลกใหม่ให้ตลาด กระตุ้นให้เกิดการทดลอง ทั้งทานแบบสแน็ค และทานเป็นเครื่องเคียง เพิ่มการบริโภคหรือ Usage มากขึ้น
สำหรับมาชิตะ “The Taste of Seoul อร่อยฟินสไตล์สตรีทโซล” 2 รสชาติใหม่ รสไก่เผ็ดเกาหลีเมียงดง และมาชิตะรสหมึกผัดซอสเผ็ดฮงแด มีขนาด 5 กรัม จำหน่ายราคา 17 บาท ผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566
ด้านภาพรวมตลาดสาหร่ายมีมูลค่า 2,303 ล้านบาท การเติบโตสูง 24.1% โดยกลุ่มสาหร่ายอบมีสัดส่วนตลาดมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคให้ความใส่ใจสุขภาพ การเลือกซื้อสินค้าจะพิจารณาปริมาณแคลอรี่และโซเดียมควบคู่กัน จึงเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโต โดยมาชิตะ เป็นผู้นำ และมีส่วนแบ่งทางการตลาดสาหร่ายอบสไตล์เกาหลีอย่างแข็งแกร่งที่ 32.8% (ข้อมูลจาก Nielsen ส.ค. 64 – ก.ค. 65)