fbpx
News update

รณรงค์เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด ลดมลพิษ PM 2.5

Onlinenewstime.com : จากปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ปกคลุมหลายจังหวัดในประเทศไทยขณะนี้ พบว่ามีสาเหตุ มาจากการเผาในที่โล่ง 54% อุตสาหกรรม 17% การขนส่ง 13% การผลิตไฟฟ้า 8% และที่พักอาศัย 7%

ซึ่งมีผลทำให้ ผู้ที่มีโรคระบบการหายใจ ระบบหัวใจ และหลอดเลือดเรื้อรังเกิดอาการกำเริบ และในระยะยาว ยังส่งผลต่อการทำงานของปอด จนอาจทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพอง รวมถึงมะเร็งปอดได้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัญหานี้ อยู่ในความสนใจของทุกฝ่าย

คุณศราวุธ ภูนาสี เลขาธิการสมาคมชาวไร่อ้อย จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ กับสถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศ ที่สูงเกินมาตรฐาน ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สำหรับบทบาทภาคอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล  ได้ขอความร่วมมือให้ทุกโรงงาน กำหนดมาตรการแนวทาง แก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ ฤดูการผลิตปี 2561/62 เพื่อให้เกิดการร่วมกันแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ

สมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดมหาสารคาม จึงร่วมกับโรงงานน้ำตาลวังขนาย และบริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด จัดทำโครงการรณรงค์ “ตัดอ้อยสด ลดมลพิษ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตร” เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ตระหนักถึงการมีส่วนร่วม ในการลดปัญหามลพิษอย่างยั่งยืน กระตุ้นให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสด ตลอดจนมีทางเลือกในการเก็บเกี่ยว ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตร 

คุณธัญรักษ์ ณ วังขนาย ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มวังขนาย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางกลุ่มวังขนาย ได้ให้ความสำคัญ เกี่ยวกับเรื่องการลดมลพิษทางอากาศ มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีการผลิต 61/62 ทางกลุ่มวังขนายได้ประกาศนโยบาย เป็นปีแห่งการรณรงค์ ตัดอ้อยสด สะอาด ปราศจากสิ่งปนเปื้อน โดยเริ่มตั้งแต่

  1. การลงพื้นที่ประชุมสัญจร เพื่อชี้แจงให้ชาวไร่อ้อยเข้าใจ รับทราบถึงปัญหา ผลกระทบจากการตัดอัอยไฟไหม้ อ้อยมีสิ่งปนเปื้อน ที่มีผลต่อโรงงานและตัวชาวไร่เอง ที่ต้องถูกหักราคาอ้อยไฟไหม้ตันละ 30 บาท อ้อยยอดยาวและอ้อยปนเปื้อนตันละ 20 บาท
  2. ติดป้ายประชาสัมพันธ์หน้าโรงงาน และทุกสถานีขนถ่าย เพื่อชี้แจงบทลงโทษ และผลกระทบที่เกิดขึ้นของมลพิษทางอากาศ
  3. ตั้งคณะทำงาน ให้ทำหน้าที่เป็นหน่วยตรวจสอบคุณภาพอ้อยหน้าโรงงาน และสถานีขนถ่ายทุกแห่งในเขตส่งเสริม หากตรวจพบอ้อยปนเปื้อน จะมีมาตรการตัดราคา จนถึงขั้นปฏิเสธการรับซื้อ
  4. จัดทำโปรโมชั่นพิเศษ ให้กับชาวไร่ที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงาน โดยการสะสมบิลรับอ้อยสด เพื่อนำมาแลกของสมนาคุณ

ซึ่งจากผลการดำเนินงานปีการผลิต 2561/62  มีสัดส่วนอ้อยไฟไหม้ ลดลงจากปีที่ผ่านมาถึง 15 % และวางเป้าหมายปี 62/63 ให้มีสัดส่วนอ้อยไฟไหม้ลดลง 30%

สำหรับสถานการณ์ฝุ่นละอองพิษ PM 2.5 กลุ่มวังขนายได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และบริษัท สยามคูโบต้า จำกัด จัดทำโครงการตัดอ้อยสด ลดมลพิษ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตร เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันในมาตรการแนวทาง แก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้แบบบูรณาการ  วางแนวทางส่งเสริมการตัดอ้อยสดให้เกษตรกรมีทางเลือกในการเก็บเกี่ยว ด้วยเทคโนโลยีใหม่    ตลอดจนให้เกษตรกร ตระหนักถึงการมีส่วนร่วม ในการลดปัญหามลพิษอย่างยั่งยืน

คุณสมบูรณ์ จินตนาผล ที่ปรึกษา-สำนักงานกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลพบว่าปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 มีสาเหตุส่วนหนึ่ง มาจากการเผาในที่โล่งบนพื้นที่การเกษตร ซึ่งเกิดจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานตัดอ้อย และลดเวลาการตัดอ้อย ส่งโรงงานให้ทันกำหนด

เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สยามคูโบต้า จึงร่วมสนับสนุนการทำเกษตรแบบไม่เผา ด้วยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร แบบครบวงจรในไร่อ้อย  พร้อมการทำเกษตร แบบไม่เผาด้วยวิธี KAS เกษตรครบวงจร เอกลักษณ์เฉพาะของคูโบต้า เพื่อเสนอเป็นทางเลือก ในการบริหารจัดการไร่อ้อย อย่างมืออาชีพ และเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ การทำเกษตรไม่เผา ช่วยลดมลพิษ ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติ ที่องค์กรเอกชนและภาครัฐ ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง  อีกทั้งสร้างความตระหนัก ถึงความสำคัญของอินทรีย์วัตถุในดิน และการรักษาความชื้นในดิน เพื่อการทำเกษตรอย่างยั่งยืน