fbpx
News update

รมว.มั่นใจการท่องเที่ยวโดยชุมชน ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก

Onlinenewstime.com : นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มั่นใจการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นกลไกสำคัญช่วยกระจายรายได้ ฟื้นเศรษฐกิจฐานราก         

ในโอกาสลงพื้นที่ เยี่ยมชุมชนท่องเที่ยวต้นแบบ บ้านไร่กองขิง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยว จำเป็นที่จะต้องเพิ่มแหล่งท่องเที่ยว และกิจกรรมการท่องเที่ยว สำหรับรองรับผู้มาเยือน

ดังนั้นการท่องเที่ยวโดยชุมชน จึงตอบโจทย์ทั้งเรื่องการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยว และการกระจายรายได้สู่ฐานราก เพราะแต่ละชุมชน มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่มีเสน่ห์ เพราะด้วยนิสัยของคนไทย คือมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวและแขกผู้มาเยือนได้อย่างเป็นกันเอง ทำให้ท่องเที่ยวของประเทศไทย ยังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศรอบบ้านเราที่ มีการเติบโตของการท่องเที่ยวสูง เช่น มาเลเซีย เวียดนาม พม่า เป็นต้น

“ผมอยากจะบอกกับคนไทยทั้ง 4 หรือ 5 ภาค ว่าใครอยู่ภาคไหนให้คงอัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ เรามีทุนดีเรื่องวัฒนธรรมประเพณี การต้อนรับ และสิ่งสำคัญคือ เรามีวัฒนธรรมอาหารที่เข้มแข็ง ให้คงไว้ทั้งหมด อย่าคล้อยตามนักท่องเที่ยว เพราะจะทำให้เราขาดอัตลักษณ์ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมาก หากเราต้องการทำท่องเที่ยวให้มีเสน่ห์ อย่างยั่งยืน”

ท่องเที่ยวโดยชุมชนช่วยกระจายรายได้

อย่างไรก็ตามการทำท่องเที่ยว ยังจำเป็นต้องมีทิศทางของการพัฒนา จุดนี้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. จะยังเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญ ที่ทำงานต้นน้ำให้เกิดความเข้มแข็งได้ เพราะ อพท. จะนำองค์ความรู้ ด้านการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน ไปพัฒนาบนฐานทรัพยากรของชุมชนที่มีอยู่ ให้เกิดเป็นกิจกรรมทางการท่องเที่ยวด้วยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่กรมการท่องเที่ยว คือหน่วยงานกลางน้ำที่ ทำหน้าที่นำกฏหมายกฏระเบียบมาใช้กำหนดการทำท่องเที่ยวได้อย่างถูกต้องเป็นสากล และหน่วยงานปลายน้ำ อย่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะทำหน้าที่ด้านการตลาด นำเสนอแหล่งท่องเที่ยว ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เกิดการรับรู้

“จากนโยบายการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชน ให้เข้มแข็งและยั่งยืน นำมาซึ่งกระจายรายได้จากการท่องเที่ยว สู่เศรษฐกิจฐานรากอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ชุมชนบ้านไร่กองขิง จึงถือเป็นตัวอย่างที่ดี ของความสำเร็จจากการพัฒนา เพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่ต้องการสัมผัสประสบการท้องถิ่นที่จริงแท้ หรือ Local Experiences พร้อมขยายผลพัฒนาเครือข่ายชุมชนท่องเที่ยวคุณภาพจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับชาติ”   

 ชุมชนบ้านไร่กองขิงเกิดจากการพัฒนาของ อพท. โดยนำต้นทุนทางวิถีวัฒนธรรม ที่เป็นอัตลักษณ์และทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน มาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยว ได้มาท่องเที่ยวสัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น

เยาวชนได้มีส่วนร่วมอนุรักษ์ และเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมการตีกลองสะบัดชัยในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ปราชญ์ชุมชนได้มานำเสนอการนวด “ย่ำขาง” นวดบำบัดโรคภัย แบบพื้นบ้านล้านนา โดยพัฒนาเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจ ะได้สัมผัสเรียนรู้จากประสบการณ์จริง  เช่น กลุ่มแม่บ้านมาสอนทำ “ลูกประคบสมุนไพรออแกนิก” กิจกรรมนวดด้วยลูกประคบสมุนไพร ซึ่งเราจะเห็นการท่องเที่ยวรูปแบบนี้ จะทำให้ทุกวัยทุกเพศได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน เกิดเห็นคุณค่าและรักษาไว้ให้เกิดความยั่งยืน  

งบประมาณต้องเพียงพอกับภารกิจ

นายพิพัฒน์ กล่าวท้ายสุดว่า ท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมของการขับเคลือนเศรษฐกิจในยุคนี้ ดังนั้นจึงต้องผลักดันให้รัฐบาล เห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งนอกจากตนจะผลักดันให้กระทรวงการท่องเที่ยวเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ ในการจัดทำงบประมาณปี 2564 ที่เตรียมดำเนินการนั้น

ตนจะต้องผลักดัน ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณ ให้กับหน่วยงานที่ทำงานด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น หรืออย่างน้อย ต้องเพียงพอกับภารกิจที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับมอบหมาย เพราะเราต้องทำงานต้องสู้กับทั้งสภาวะโลก และสภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศไทย

โดยในปี 2563 นายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาประเทศไทยที่ 42 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 2 ล้านคน จากปี 2562 ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาประเทศไทยจบที่ตัวเลข 40 ล้านคน