onlinenewstime.com : จากที่มีประเด็นข้อวิจารณ์ต่างๆ ว่า มาตรการห้ามรถกระบะ หรือรถกระบะมีแค็บ บรรทุกคนเด็ดขาดนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน เพราะเป็นการสร้างปัญหาจราจรเพิ่มขึ้น บีบบังคับให้ประชาชน ใช้รถสาธารณะมากขึ้น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการขนส่ง ฯลฯ นั้น
ล่าสุดรัฐบาล “ผ่อนผันมาตรการจราจร” นั่งหลังกระบะ-แค็บหลังคนขับ เพื่อลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่า รัฐบาลมีคำสั่งให้ผ่อนผัน การบังคับใช้กฎหมาย ในส่วนของการห้ามนั่งด้านหลังกระบะ และแค็บด้านหลังคนขับออกไปก่อน เพื่อเป็นการลดผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชน ที่ใช้การเดินทางตามวิถีชีวิตทั่วไป และการประกอบอาชีพประจำวัน
แต่ทั้งนี้ ต้องใช้รถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ห้ามนั่งบนขอบกระบะ ไม่ใช้ความเร็วเกินกำหนด ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น และในช่วงนี้ให้เน้นการสร้างความเข้าใจ สร้างการรับรู้ประชาชนอย่างกว้างขวาง เป็นความห่วงใยของภาครัฐ ที่มุ่งเน้นที่จะดูแลประชาชนให้มีความปลอดภัยสูงสุด ในการใช้รถใช้ถนนทั้งช่วงเทศกาล และทุกๆ วัน
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปว่า ในการจดทะเบียนรถกระบะ (รถปิ๊กอัพ) หรือรถกระบะมีแค็บ เป็นไปตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 จะถูกจัดอยู่ในประเภท “รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล” ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการใช้บรรทุกสัตว์หรือสิ่งของ และสำหรับรถที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา ได้กำหนดให้ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยในตำแหน่งที่นั่งผู้ขับรถและที่นั่งตอนหน้าของรถ (นั่งคู่คนขับ) ส่วนรถที่จดทะเบียนก่อน ปี 2537 ไม่บังคับติดตั้ง
สำหรับการใช้งานรถยนต์บนถนนสาธารณะ จะต้องใช้งานรถให้ถูกต้อง ตามประเภทรถที่จดทะเบียนไว้ และจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ของพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งเป็นกฎหมายสำหรับควบคุมการใช้งานรถบนถนนสาธารณะต่าง ๆ เช่น เครื่องหมายจราจร การบรรทุกคน สัตว์ หรือสิ่งของ การคาดเข็มขัดนิรภัย ฯลฯ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แถลงข่าวผ่อนผันมาตรการจราจร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเข้มงวด เรื่องการใช้ความเร็ว ตามที่กฎหมายกำหนด และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดจนห้ามใช้อุปกรณ์สื่อสารขณะขับรถ