Onlinenewstime.com : ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมไฟฟ้า สภาวิศวกร ชวนคนไทยเช็ค 4 อาการอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน เสี่ยงไฟดูด-ไฟช็อต-ไฟเกิน กรณีมีการใช้ไฟฟ้าปริมาณมากจากการกักตัวอยู่บ้านยาวนานช่วงโควิด ดังนี้ สายไฟถลอกหรือชำรุด เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหรือชำรุด จุดต่อหลวมเสียหรือชำรุด สัตว์หรือสิ่งของเป็นส่วนนำกระแสไฟฟ้า แนะติดตั้ง ‘เครื่องตัดไฟรั่ว’ ตัวช่วยตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ กรณีกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเข้ามีค่าไม่เท่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลออก หนุนสร้างความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า และป้องกันอุบัติเหตุจากการถูกไฟฟ้าดูด พร้อมย้ำทุกครัวเรือน! หมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์-ระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง หรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนสภาวิศวกร 1303 ไลน์ไอดี @coethai หรือแอปฯ รวมช่าง จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
นายเตชทัต บูรณะอัศวกุล อนุกรรมการสวัสดิการและสมาชิกสัมพันธ์ สภาวิศวกร และ อนุกรรมการทดสอบความรู้ความชำนาญฯ สาขาวิศวกรรรมไฟฟ้า เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาทั่วประเทศ ออกมาตรการงดเว้นการเข้ามายังพื้นที่ภายใน และให้บุคลากร-เจ้าหน้าที่ภายในองค์กรปฏิบัติงานที่บ้าน (Work From Home) ครูผู้สอนและนักเรียนนักศึกษา ทำการเรียนการสอนแบบออนไลน์ หรือกระทั่งในบางรายที่ต้องกักตัวในสถานที่ต่าง ๆ เป็นเวลานาน เพื่อควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ จึงเป็นปัจจัยสำคัญให้ทุกครัวเรือนหรืออาคารในหลายพื้นที่ มีเหตุจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าสูงจนเกิดภาวะกระแสไฟฟ้าเกินหรือไฟช็อตได้ในอนาคต
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันเหตุอันตรายจากภาวะดังกล่าว ผู้ใช้งานจึงควรสังเกต 4 อาการเสี่ยงไฟดูด-ไฟช็อต-ไฟเกินของอุปกรณ์ไฟฟ้า ดังนี้
• สายไฟถลอกหรือชำรุด
กรณีที่มีการเดินระบบสายไฟบริเวณผนังหรือฝ้าเพดานบ้าน อาจจะส่งผลให้ฉนวนสายไฟเกิดการถลอกได้ ดังนั้น จึงควรแจ้งให้ผู้รับเหมาหรือวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ทำการทดสอบค่าความเป็นฉนวนทุกครั้ง เพื่อป้องกันฉนวนสายไฟชำรุดหรือสึกหรอ
• เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหรือชำรุด
เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดมีอายุการใช้งานที่เหมาะสม แต่ในกรณีที่ใช้งานนานต่อเนื่อง เช่น การเปิดพัดลมไว้นานหลายชั่วโมง อาจจะส่งผลให้มอเตอร์พัดลมมีความร้อนสูงและนำไปสู่การไหม้ได้ ดังนั้น หากพัดลมมีอาการดังกล่าว ควรปิดวงจรและดึงปลั๊กออกจากเต้าเสียบทันที
• จุดต่อหลวม เสีย หรือชำรุด
ถือเป็นปัญหาใหญ่ระดับหนึ่ง ในกรณีที่ช่างไฟฟ้าติดตั้งไม่ได้คุณภาพ อาจจะทำให้จุดต่อของปลั๊กไฟ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าหลวมได้ และอาจจะเกิดอันตรายในที่สุด
• สัตว์หรือสิ่งของบางประเภท (เช่น โลหะ) เป็นส่วนนำกระแสไฟฟ้า
ในช่วงอากาศชื้น หรือหลังฝนตก สัตว์จำพวกมดและปลวก มักทำรังบริเวณที่มีความอบอุ่น ดังนั้น หากสังเกตพบสัตว์ดังกล่าว เดินทางเป็นแนวยาวไปยังบริเวณเต้ารับหรือสวิตช์ (กระดิ่งกดหน้าบ้าน) ต้องรีบกำจัดเพื่อป้องกันการช็อต-รั่วของระบบไฟฟ้าภายใน
สำหรับบ้านอยู่อาศัยหรือสถานที่คล้ายคลึง ควรติดตั้ง “เครื่องตัดไฟรั่ว” (RCD: Residual Current Device) เครื่องตัดไฟฟ้าอัตโนมัติ กรณีกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านเข้ามีค่าไม่เท่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลออก พร้อมป้องกันอันตรายจากการถูกไฟฟ้าดูด กรณีแรงดันไฟฟ้าที่กำหนดไม่เกิน 440 โวลต์ จะต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐาน IEC 60755, IEC 61008, IEC 61543 หรือ มอก. 909-2548 หรือ มอก. 2425-2552 ดังนี้
1. มีค่ากระแสรั่วไม่เกิน 30 มิลลิแอมแปร์ และมีช่วงเวลาในการตัดไม่เกิน 0.04 วินาที
2. ต้องเป็นชนิดที่ปลดสายไฟเส้นที่มีไฟทุกเส้นออกจากวงจร รวมทั้งสายนิวทรัล (Neutral)
3. ห้ามต่อวงจรคร่อมผ่าน (By Pass) นอกจากนี้ ยังควรหมั่นตรวจสอบ-บำรุงรักษาอุปกรณ์หรือระบบไฟฟ้าภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ
4. ควรกดปุ่มทดสอบ (Test Trip) หรือเปิดปิด C.B เพื่อให้กลไกทำงานได้อย่างปกติ โดยสามารถขอคำปรึกษากับสภาวิศวกร ผ่านสายด่วน 1303 ไลน์ไอดี @coethai หรือขอคำแนะนำจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญได้ที่ แอปพลิเคชันรวมช่าง (Fixer Finder) ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมาข่าวการเสียชีวิตจากเหตุ ‘ไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้าช็อตหรือไฟเกิน’ยังมีให้พบเห็นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ ปริมาณ ระยะเวลา และเส้นทางหรือส่วนที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านจากร่างกายลงสู่ดิน สภาวิศวกร ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลมาตรฐานผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม และพร้อมให้บริการด้านวิชาการแก่ประชาชน เพื่อสร้างความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สิน จึงเปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ผู้สนใจสามารถรับชมย้อนหลังได้สะดวกขึ้น ผ่านยูทูบแชลแนล (YouTube Channel) ‘COE Thailand’ ซึ่งภายในมีหัวข้อ/งานวิศวกรรมที่น่าสนใจจำนวนมาก ทั้งการออกแบบระบบไฟฟ้าในอาคารชุด แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 และไฟป่า การแก้ไขอาคารทรุดตัว ฯลฯ หรือกรณีพบข้อสงสัยเกี่ยวกับงานด้านวิศวกรรม สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนสภาวิศวกร 1303 และไลน์ไอดี @coethai
ติดตามข่าวสารและกิจกรรมความเคลื่อนไหวของสภาวิศวกรได้ที่ เว็บไซต์ www.coe.or.th เฟซบุ๊กแฟนเพจ www.facebook.com/coethailand และยูทูบแชลแนล “COE Thailand” หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ สายด่วนสภาวิศวกร 1303 และไลน์ไอดี @coethai