Onlinenewstime.com : กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เพิ่มการเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ กทม. มี 4 เครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ร่วมมือจัดคิวรับจองการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชน ทั้งทางออนไลน์และหน้าร้าน (shop) ไม่มีการรับ Walk in ลดปัญหารอคิวและความแออัด
วันนี้ (24 พฤษภาคม 2564) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (True) และนายวิโรจน์ โตเจริญวาณิช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารไร้สาย 1 บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติจำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมแถลงข่าวความร่วมมือ การให้บริการฉีดวัคซีนศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ (CENTRAL VACCINATION CENTER : CVC)
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ประชาชนทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด 19 ตามความสมัครใจ และจัดเป็นวาระแห่งชาติที่จะต้องจัดหา กระจาย และระดมฉีดวัคซีนให้ได้มากและเร็วที่สุด
ได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคมจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เพื่อฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงของกระทรวงคมนาคม และใช้พื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ขยายการฉีดวัคซีนแก่องค์กร หน่วยงานต่างๆ รวมถึงประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นการเพิ่มการเข้าถึงให้ประชาชนได้รับบริการฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม การระดมเข้ารับการฉีดวัคซีน ประชาชนและผู้ให้บริการ อาจมีคำถามเรื่องการจองคิว การได้คิวฉีด และเรื่องความแออัด เป็นต้น กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ (Operators) ของประเทศทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ AIS, Dtac, True และ NT ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา และเพิ่มบริการในการรับนัดล่วงหน้า และกระจายจำนวนผู้มารับบริการตามช่วงเวลาต่างๆ อย่างเหมาะสม
เนื่องจากคนไทยกว่า 90% เป็นลูกค้าของทั้ง 4 เครือข่าย ซึ่งความร่วมมือนี้ ถือเป็น BIG STEP ในการแก้ปัญหา ผลักดันวาระแห่งชาติของการระดมฉีดวัคซีนต้านโควิด19 ให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหาวัคซีนซิโนแวค เพื่อฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรด่านหน้า และประชาชนในพื้นที่ระบาด ตั้งแต่กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม รวม 6 ล้านโดส
และจะได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนแผนหลักในเดือนมิถุนายน 2564 และจะเริ่มฉีดให้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เริ่มฉีด 7 มิถุนายนเป็นต้นไป โดยมีวัคซีนที่จะกระจายไปยังทุกจังหวัด 16 ล้านโดสฉีดในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2564
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ระหว่าง 24 พฤษภาคม – 6 มิถุนายน 2564 เป็นการทดสอบระบบในการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะที่ลงทะเบียนผ่านกระทรวงคมนาคม ได้แก่ คนขับแท็กซี่ ขสมก. วินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ไม่มีการรับกลุ่ม Walk in
และวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป จะเปิดลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไป ผ่าน 4 ค่ายมือถือ ซึ่งมีการเปิดลงทะเบียนผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เว็บไซต์ คอลเซ็นเตอร์ และหน้าร้าน (Shop) โดยจะเริ่มฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 7-30 มิถุนายน 2564 โดยค่ายมือถือ จะจัดบุคลากรเข้ามาอำนวยความสะดว กและเพิ่มสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบริเวณจุดฉีดวัคซีนด้วย
สำหรับการรับบริการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนง่ายๆ ใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที ดังนี้
จุดที่ 1 วัดอุณหภูมิ (ประตูทางเข้า) ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน รับแบบคัดกรองและใบยินยอมการเข้ารับวัคซีน ผู้เข้ารับบริการที่มีประวัติแพ้ยารุนแรง รับประทานยาต้านเกล็ดเลือด/ยาละลายลิ่มเลือด ที่อาจทำให้เลือดหยุดยาก จะส่งต่อไปคัดกรองโดยแพทย์อีกครั้งหนึ่ง ณ จุดดูแลผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
จุดที่ 2 ลงทะเบียน ยืนยันตัวตนโดยแสดง QR code ที่ได้รับจากการนัดหมายพร้อมบัตรประชาชน ลงนามในใบยินยอมเข้ารับวัคซีน และรับใบนัดหมายการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
จุดที่ 3 ฉีดวัคซีน
จุดที่ 4 พักรอสังเกตอาการ 30 นาที และลงทะเบียนผ่านไลน์ “หมอพร้อม” เพื่อรับแจ้งข้อมูลการรับวัคซีน ทำแบบประเมินอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีน และออกใบรับรองการได้รับวัคซีน