fbpx
News update

สธ.เร่งฉีดวัคซีน “ผู้สูงอายุ” ก่อนสงกรานต์ เพิ่มความปลอดภัยเมื่อลูกหลานกลับไปเยี่ยม

Onlinenewstime.com : กระทรวงสาธารณสุข เผย ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ของไทยยังเพิ่มขึ้น ขอประชาชนร่วมกันเข้มมาตรการลดการติดเชื้อ พร้อมเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ “สูงอายุ” ที่อัตราเสียชีวิตสูงกว่าวัยอื่น 

กระทรวงสาธารณสุข เผย ผู้ติดเชื้อโควิด 19 ของไทยยังเพิ่มขึ้น ขอประชาชนร่วมกันเข้มมาตรการลดการติดเชื้อ พร้อมเร่งฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ “สูงอายุ” ที่อัตราเสียชีวิตสูงกว่าวัยอื่น แนะผู้สูงอายุรีบฉีดวัคซีนตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อให้ลูกหลานกลับไปเยี่ยมช่วงสงกรานต์ได้อย่างสบายใจและปลอดภัย ด้าน สปสช.เพิ่มจิตอาสาสายด่วน 1330 ช่วยลดปัญหาสายไม่ว่าง/ไม่ได้รับสาย

วันนี้ (4 มีนาคม 2565) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี  นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวฉีดวัคซีนโควิด 19 ผู้สูงอายุก่อนสงกรานต์ ลูกหลานกลับบ้านสบายใจ และการปรับระบบ 1330 ลดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ตกค้าง

นพ.โสภณกล่าวว่า สถานการณ์โควิด 19 ของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และอาจเป็นไปตามฉากทัศน์ที่คาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 5 หมื่นรายในช่วงหลังสงกรานต์ แต่ทุกคนสามารถช่วยกันยกระดับมาตรการป้องกัน เพื่อลดการติดเชื้อลงได้

โดยคาดว่าช่วงพฤษภาคม-มิถุนายนจะเป็นขาลงของการระบาด ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจ เมื่อมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาก จะทำให้มีผู้ป่วยอาการรุนแรง ที่ต้องรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นตามมาได้ โดยช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า และใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ขณะที่ผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยวันนี้พบเสียชีวิต 54 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและไม่ได้รับวัคซีน

นพ.โสภณกล่าวว่า ผู้สูงอายุ มีการติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มวัยอื่น แต่มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าหลายเท่า โดยเฉพาะสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป อัตราติดเชื้อเสียชีวิตเกือบ 3% อายุ 60-69 ปี อัตราติดเชื้อเสียชีวิต 0.6% และอายุ 50-59 ปี อัตราติดเชื้อเสียชีวิต 0.2%

และจากข้อมูลพบว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในผู้สูงอายุ ช่วยลดการเสียชีวิตลงได้ถึง 41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้สุงอายุที่ไม่ได้รับวัคซีน

ดังนั้น ในช่วง 1 เดือนเศษก่อนสงกรานต์ ที่ลูกหลานจะกลับไปเยี่ยมที่ต่างจังหวัด ขอให้ผู้สูงอายุ 2.17 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนมารับวัคซีนเข็มแรก หากฉีดเข็มแรกแล้วให้ฉีดเข็ม 2 ตามนัด และหากรับครบ 2 เข็มเกิน 3 เดือนให้รีบมารับเข็มกระตุ้น 

เพื่อให้สงกรานต์ปีนี้ ลูกหลานกลับไปเยี่ยมบ้านได้อย่างสบายใจ โดยลูกหลาน ต้องฉีดวัคซีนและต้องป้องกันตนเองด้วยเช่นกัน เนื่องจากสงกรานต์ปีที่แล้ว หลายครอบครัวต้องสูญเสียผู้สูงอายุที่ติดเชื้อจากลูกหลานที่กลับไปเยี่ยม

“สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้สำรวจประชาชน 86,798 คน พบว่า 37.8% ไม่ต้องการรับวัคซีนเข็ม 3 แม้ถึงเวลาที่กำหนดแล้ว เนื่องจากกังวลเรื่องผลข้างเคียง และกลัวเสียชีวิต 21% และคิดว่าฉีด 2 เข็มเพียงพอแล้ว 14% ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด

ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจ เพื่อให้ผู้สูงอายุกลุ่มนี้เข้ามาฉีดวัคซีนมากขึ้น และสนับสนุนให้ทุกหมู่บ้านมีทะเบียนรายชื่อผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด 19 เพื่อเป็นข้อมูลให้ทุกหน่วยงาน ร่วมกันนำผู้สูงอายุมารับวัคซีนให้ครบถ้วนมากที่สุด รวมถึงการฉีดวัคซีนในเด็ก ซึ่งจะช่วยลดการแพร่กระจายเชื้อในผู้สูงอายุได้ด้วย” นพ.โสภณกล่าว

ด้าน ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวก สามารถติดต่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาผ่านสายด่วนต่างๆ ได้ โดยพื้นที่ กทม.ติดต่อสายด่วนประจำเขต 50 เขต หรือสายด่วน 1669 กด 2 ส่วนต่างจังหวัดมีสายด่วนประจำจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีเบอร์กลาง คือ สายด่วน สปสช. 1330 กด 14

อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาก ทำให้สายด่วน 1330 มีผู้โทรเข้ามาสูงถึง 70,300 สาย แต่ละสายเราใช้เวลาในการสอบถามประมาณ 7 นาที ทำให้ส่วนหนึ่งพบปัญหาสายไม่ว่างหรือไม่ได้รับสาย แม้จะขยายคู่สายจนเต็ม 3,000 คู่สาย และเพิ่มจำนวนผู้รับสายแล้วก็ตาม

ดังนั้น จึงพิ่มช่องทางลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ สปสช. หรือไลน์ @nhso รวมถึงรับสมัครจิตอาสาทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนมาช่วย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ได้เพิ่มทางเลือกการเข้ารับการรักษาสำหรับผู้ติดเชื้อไม่มีอาการและไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงในลักษณะผู้ป่วยนอก ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา สามารถไปติดต่อหน่วยบริการตามสิทธิได้ทุกสิทธิ

“การเพิ่มผู้รับสายและเพิ่มบริการแบบผู้ป่วยนอก ทำให้จำนวนสายที่โทรเข้าสายด่วน 1330 ลดลงจาก 7 หมื่นสาย เหลือ 5.5 หมื่นสาย และอัตราไม่ได้รับสาย จากเดิมมีประมาณครึ่งหนึ่ง ลดลงเหลือไม่ถึง 1 ใน 4 คาดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ จำนวนสายที่ไม่ได้รับหรือรอสายจะลดลงมากขึ้น” ทพ.อรรถพรกล่าว