fbpx
News update

สมาคมการตลาดฯ เผยวิสัยทัศน์ ร่วมฝ่าวิกฤติเคียงข้างผู้ประกอบการและนักการตลาดไทย

Onlinenewstime.com : สมาคมการตลาดฯ เผยวิสัยทัศน์พร้อมฝ่าวิกฤติ ผนึกกำลังทุกภาคส่วน ตกผลึกองค์ความรู้ด้านการตลาดแนวใหม่เน้น 4 แกนหลัก คือ กลยุทธ์ชัดเจน  นวัตกรรมสร้างสรรค์  สื่อสารอย่างมีศิลปะ และเติบโตอย่างยั่งยืน

เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการ ข้ามผ่านวิกฤติเศรษฐกิจหลังโควิด-19 พร้อมเผยเทรนด์การตลาดแนวใหม่ ยุคดิจิทัลในรูปแบบ New Normal เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการไทย ในการ Reskill & Upskill – Response – Recover และ Renew เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย นำโดย นายอนุวัตร เฉลิมไชย นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย แถลงข่าววิสัยทัศน์และพันธกิจ พร้อมแนะนำทีมคณะกรรมการอำนวยการชุดใหม่ 34 ท่าน ที่มาร่วมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์และพันธกิจของสมาคมร่วมกัน

นายอนุวัตร กล่าวว่า “ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมานี้ เป็นสถานการณ์ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกธุรกิจ ทั้งในแง่ของรูปแบบการทำการตลาด และ skillset ของบุคลากรคนทำธุรกิจ ซึ่งความท้าทายหลัก ที่ภาคธุรกิจต้องรับมือนั้น มาจากหลายสาเหตุ คือ

  • New Crisis ทั้งเรื่องโควิด-19 และ เรื่องสิ่งแวดล้อมอื่นๆที่แย่ลงทุกวัน
  • New Normal เมื่อผู้บริโภคก้าวสู่โลก digital lifestyle เต็มตัว นักการตลาดก็ต้องปรับกระบวนทัพตามอย่างรวดเร็ว
  • New Technology เข้ามามีบทบาทเ ปลี่ยนโลกการตลาดแบบเดิมๆ ซึ่งโลก analog เริ่มหายไป ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้ง AI, Mixed Reality, 5G ฯลฯ นักการตลาดต้องปรับตัวให้ทัน  
  • New Consumers แบ่งผู้บริโภคเป็น 2 กลุ่มที่ต่างกันจนสุดขั้ว คือ กลุ่ม Generation Z กับ กลุ่ม Silver Generation นักการตลาดยุคนี้ต้องให้ความสำคัญกับเรื่อง generation marketing มากขึ้น ซึ่งความท้าทายนี้สามารถสร้างโอกาสใหม่ๆ ได้
  • ความไม่แน่นอน (Uncertainty) จากเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา จึงมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ในวงการธุรกิจและการตลาด ทั้งเรื่องเทคโนโลยีดิจิตอล ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมถึงวิกฤติและความท้าทายต่างๆ ทำให้นักการตลาดในยุคนี้ ต้องปรับตัวให้ทันกับโลกการตลาดยุคใหม่อยู่เสมอ

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและเศรษฐกิจ ให้เดินไปข้างหน้าในช่วงนี้ คือ ความร่วมมือและการประสานทุกภาคส่วนเ พื่อร่วมกันผลักดันให้ธุรกิจไทย ก้าวผ่านเหตุการณ์วิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ แต่ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์หรือมีความท้าทายเพียงใด สมาคมการตลาด ก็พร้อมที่จะยืนเคียงข้างผู้ประกอบการอยู่เสมอ

นอกจากนี้  ในปี 2564 สมาคมการตลาดฯ กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 55 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามุ่งสร้างสังคมของนักการตลาดพันธุ์แท้ หรือ Genuine Society of Marketing Professionals เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้าง ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับทุกๆคน

เพื่อสร้างเครือข่ายนักการตลาดชั้นนำของประเทศ และ มุ่งทำงานเพื่อตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของสมาคม คือ “การใช้ความเยี่ยมยอดทางการตลาด มาเป็นพลังขับเคลื่อนขีดความ สามารถในการแข่งขันของประเทศ” (Marketing Excellence as a ‘Competitive Force’ of the Nation) ผ่านการขับเคลื่อนด้วย 4 พันธกิจหลัก (4H)  คือ

  1. สร้าง Head หรือ Center of Marketing Wisdom  มีการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิ จและการตลาด เพื่อประมวลความคิด วิเคราะห์กลั่นกรอง Co-Create องค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านการตลาด และธุรกิจให้กับประเทศ โดยเริ่มจากผู้บริหารด้านการตลาด และผู้เชี่ยวชาญภาคการศึกษาที่ จะมาร่วมเป็นภาคีในการระดมพลังสมอง ให้กับนักการตลาดไทย 
  2. สร้าง Hand หรือเครือข่ายผู้ทรงคุณวุฒิด้านการตลาด  (The CMO & Academic Board) ที่จะช่วยเผยแพร่ความรู้ด้านการตลาดที่แท้จริง นอกเหนือจากการระดมพลังสมองแล้ว ทางสมาคมฯ ยังมุ่งสร้างเครือข่ายนักการตลาด ที่จะมาแบ่งปันความรู้จากประสบการณ์จริง และกรณีศึกษาต่างๆ ผ่านกิจกรรมของสมาคมฯ ในรูปแบบงานสัมมนา และงานแลกเปลี่ยนความรู้ ทั้งในระดับจังหวัดและระดับ ประเทศ เพื่อร่วมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทย ให้เติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
  3. สร้าง Heart เพื่อชี้ให้เห็นถึง จิตวิญญาณการตลาด ที่ถูกต้องและเหมาะสม ปลุกจิตสำนึก และชี้ให้เห็นว่า “การตลาดที่ถูกต้องและเหมาะสม คือ จิตวิญญาณสำหรับทุกธุรกิจ” และการยึดมั่นในจรรยาบรรณการตลาดที่ดี จะส่งผลดีกับธุรกิจในระยะยาว
  4. สร้าง Hope เพื่อจุดประกายธุรกิจด้วยการสร้างนักการตลาดยุคใหม่ เน้นสร้างนักการตลาดรุ่นใหม่ผ่านโครงการ J-MAT (Junior Marketing Association of Thailand) โดยผนึกกำลังกับภาคการศึกษา เสริมประสบการณ์ แก่นักศึกษาธุรกิจและการตลาดให้มีศักยภาพ พร้อมเข้าสู่โลกธุรกิจ และเติมความรู้ด้านการตลาดยุคใหม่ ให้แก่นักการตลาดที่ต้องการ Reskill & Upskill เพื่อสร้างความหวังและความเชื่อมั่น ในการที่จะใช้การตลาด นำพาประเทศไทยไปสู่โลกการตลาดยุคใหม่
เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์และพันธกิจที่วางไว้ ทางสมาคมฯ จะมีบทบาทเป็นแพลตฟอร์มในการ
  1. Networking & Collaboration สร้างเครือข่าย รวมไอเดีย และให้ความร่วมมือกับภาคีต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งระดับบุคคลและองค์กร โดยมีกิจกรรมให้นักการตลาด ได้มาพบปะกัน ทั้งงาน Marketing Day, Insight Marketing Visit, และงานแจกรางวัล MAT Award และ Hall of Fame เป็นต้น
  2. Knowledge & Experience sharing ตกผลึกแนวคิดตลาดยุคใหม่จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมแบ่งปันให้แก่ผู้ประกอบการ และนักการตลาด ผ่านงานสัมมนาและกิจกรรมให้ความรู้ต่างๆ เช่น The CMO Academy และ Super Brand Manager ซึ่งเป็น flagship course ของเรา
  3. Next generation development พัฒนานักการตลาดรุ่นใหม่ ให้มีทั้งศักยภาพ และมีจรรยาบรรณ ผ่านโครงการ J-MAT และการมอบทุนการศึกษาของมูลนิธิ เพื่อการศึกษาของสมาคมการตลาดฯ

นอกจากนี้เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจหลัก ในการเติมความรู้ด้านการตลาดยุคใหม่ ให้แก่นักการตลาดที่ต้องการ Re-Skill & Up-Skill สมาคมการตลาดฯ จึงพัฒนา 4 แกนความรู้หลักสำคัญที่นักการตลาดมองข้ามไม่ได้ คือ

  1. Strategic marketing การวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนก่อนออกเดินทางในโลกธุรกิจ
  2. Martech & Innovations การเรียนรู้ที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่แตกต่าง
  3. Storytelling การสื่อสารอย่างมีศิลปะ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในโลก ที่เต็มไปด้วยสาสน์จากหลายแบรนด์
  4. Marketing integrity & Sustainability การเติบโตอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของธรรมาภิบาลที่ดี

โดยทางสมาคมการตลาดฯ จะมีการพัฒนาหลักสูตรและเนื้อหาต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้ง 4 ด้าน (4R) เพื่อเป็นการเรียนรู้ (Learning Pillars) ใหม่ของสมาคมฯ ในการช่วยพัฒนาศักยภาพนักการตลาดไทย

  1. Reskill & Upskill สร้างโอกาสตัวเอง ให้มีศักยภาพพร้อมก้าวสู่โลกการตลาดยุคใหม่
  2. Response สามารถตอบโจทย์และปรับตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที
  3. Recover   กลับสู่สภาวะการดำเนินธุรกิจตามปกติหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย
  4. Renew พัฒนาธุรกิจ โดยนำโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากวิกฤติมาใช้ เพื่อการเติบโตในระยะยาว

ทางสมาคมฯ มั่นใจว่า หากองค์กรและนักการตลาดมี การปรับตัวและเติมความรู้ใหม่ๆ จะนำไปสู่ ผลลัพธ์ 3S คือ Survive, Strong, และ Sustainable ไม่ใช่แค่ให้ธุรกิจอยู่รอด แต่สามารถเติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน

โดยในปี 2563 – 2565 ผู้ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์และพันธกิจของสมาคม ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คือ กลุ่มคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ จากหลากหลายกลุ่มธุรกิจ อาทิ Industrial, Service, FMCG, Retail, Tech, Platform, Media & Advertising Agency, Research, PR, Communications เป็นต้น โดยการทำงานหลักๆ คือร่วมกันระดมสมอง ตกผลึกองค์ความรู้ต่างๆ ของคณะกรรมการบริหารทุกท่าน เพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพนักการตลาดไทย นายอนุวัตรกล่าวทิ้งท้าย