Onlinenewstime.com : เซินเจิ้น ประเทศจีน, 1 เมษายน พ.ศ. 2564 – หัวเว่ย เผยรายงานประจำปี 2563 แม้การเติบโตทางธุรกิจจะชะลอตัว แต่ผลประกอบการส่วนใหญ่ของบริษัท ยังเป็นไปตามคาดการณ์ โดยทำรายได้จากยอดขายทั่วโลกในปี พ.ศ. 2563 อยู่ที่ 891.4 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า พร้อมด้วยกำไรสุทธิที่ 64.6 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 3.2% จากปีที่แล้ว
ในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจโครงข่ายของหัวเว่ย ได้ช่วยให้ผู้ให้บริการมากกว่า 1,500 รายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก นำเสนอบริการได้อย่างมีความเสถียรในช่วงล็อคดาวน์จากโควิด-19 ซึ่งบริการดังกล่าว ช่วยมอบบริการโทรคมนาคม การเรียนรู้ออนไลน์ และออนไลน์ช้อปปิ้งให้กับผู้คนทั่วโลก
หัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายทั่วโลก เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ดีขึ้นไปอีกระดับ รวมทั้งเดินหน้าผลักดันโครงการนวัตกรรมด้าน 5G กว่า 3,000 โครงการ ในกว่า 20 อุตสาหกรรม เช่น เหมืองถ่านหิน การผลิตเหล็กกล้า ท่าเรือ หรือภาคการผลิตอื่นๆ
ในช่วงปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจองค์กรของหัวเว่ย ได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนานวัตกรรมโซลูชันสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ และเพื่อสร้างอีโคซิสเต็ม ที่สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการร่วมมือและประสบความสำเร็จไปด้วยกัน ทั้งนี้ ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น หัวเว่ยได้ส่งมอบองค์ความรู้ด้านเทคนิค และโซลูชันต่าง ๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับไวรัสในครั้งนี้
ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือโซลูชัน AI บนหัวเว่ยคลาวด์ เพื่อช่วยวินิจฉัยโรค ช่วยลดภาระด้านโครงสร้างทางสาธารณสุข ให้กับโรงพยาบาลได้ทั่วโลก นอกจากนี้ หัวเว่ยยังทำงานร่วมกับพันธมิตร เปิดตัวแพลตฟอร์มการเรียนรู้ ที่ทำงานบนคลาวด์สำหรับนักเรียนระดับประถมและมัธยมกว่า 50 ล้านคนอีกด้วย
การเปิดตัวระบบปฏิบัติการ HarmonyOS และอีโคซิสเต็ม Huawei Mobile Services หรือ HMS เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์จากกลุ่มธุรกิจสำหรับผู้บริโภคของหัวเว่ย ในการมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตในยุค AI แบบไร้รอยต่อ (1 + 8 + N) เพื่อส่งมอบประสบการณ์อัจฉริยะให้กับผู้บริโภค ได้อย่างครอบคลุมอุปกรณ์และสถานการณ์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานอัจฉริยะ ฟิตเนสและสาธารณสุขอัจฉริยะ สมาร์ทโฮม การเดินทางที่ง่ายขึ้น หรือแม้แต่เรื่องของความบันเทิง
นายเคน หู (Ken Hu) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา หัวเว่ย สามารถเดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบาก เราเดินหน้ารังสรรค์นวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าของเรา ช่วยต่อสู้กับโรคระบาด สนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้สังคมทั่วโลกเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากนี้ เรายังใช้โอกาสนี้ในการพัฒนากระบวนการการดำเนินธุรกิจของเรา ซึ่งช่วยให้เราสามารถทำผลประกอบการได้ในระดับใกล้เคียงกับที่คาดการณ์เอาไว้”
หัวเว่ยเล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการสร้างมูลค่าร่วมกันให้แก่ภาคสังคม และกำลังทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อ งเพื่อตอบรับกับเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นในด้านเศรษฐกิจ สังคม และด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อความก้าวหน้าและความสำเร็จร่วมกัน
ในด้านการเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการเตรียมความพร้อมให้กับอีโคซิสเต็มด้านดิจิทัล หัวเว่ยได้เปิดตัวโครงการ Spark Program ที่ประเทศสิงคโปร์ในปี พ.ศ. 2563 เพื่อสนับสนุนด้านเทคนิค เงินทุน การให้คำปรึกษา และการฝึกอบรมให้แก่บริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยี นอกจากนี้ ศูนย์ 5G Ecosystem Innovation Center (EIC) ในประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหัวเว่ย ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งจัดแสดงและสาธิตนวัตกรรมด้าน 5G ในภูมิภาคอาเซียน
เพื่อรับมือกับปัญหาด้านบุคลากร หัวเว่ยได้เปิดตัวโครงการต่าง ๆ มากมายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึง HUAWEI ASEAN Academy, Digital Training Bus และโครงการ Seeds for the Future เพื่อส่งมอบองค์ความรู้ และฝึกอบรมบุคลากรในด้านดิจิทัล โดยหัวเว่ยตั้งเป้าฝึกอบรมบุคลากรด้านไอซีทีอีกอย่างน้อย 300,000 คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายในเวลาห้าปีต่อจากนี้
“เราจะยังคงทำงานร่วมกับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเราอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อตอบรับกับความก้าวหน้าในภาคสังคม การเติบโตในภาคเศรษฐกิจ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” นายเคน หู กล่าว
ข้อมูลด้านการเงินทั้งหมดในรายงานประจำปี พ.ศ. 2563 ได้รับการจัดทำอย่างเอกเทศโดย KPMG ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรด้านการทำบัญชีรายใหญ่ ติดอันดับหนึ่งในสี่ของโลก ทั้งนี้ ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานประจำปี 2563 ได้ที่ ลิงก์