ตั้งแต่ปี 2559 ที่กิจการหุ่นยนต์-อุปกรณ์อัตโนมัติ ได้นำร่องขึ้นที่ประเทศไทย มาจนถึงวันนี้ บีโอไอ ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าว่ามีบริษัทเอกชนจากต่างประเทศหลายแห่งที่เข้ามาลงทุน
เช่นเดียวกับ “นาชิ เทคโนโลยี” ที่มีขยายการลงทุนการผลิตและซ่อมแซมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรมนี้ ตามเป้าหมายของบีโอไอเพื่อรองรับประเทศไทย 4.0 อีกทั้งลดการนำเข้าจากต่างประเทศมูลค่ากว่า 700 ล้านบาทต่อปี
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2559 ถึงเดือน มิถุนายน 2560 บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกิจการประกอบหุ่นยนต์หรืออุปกรณ์อัตโนมัติซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 แล้วจำนวน 16 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 1,400 ล้านบาท คือ
- กิจการผลิตเครื่องกลึงอัตโนมัติควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CNC Lathe Machine) ของบริษัทซิติเซ็น แมชชีนเนอรี่ เอเชียจำกัด
- กิจการผลิตเครื่องออกตั๋วและประตูกั้นชานชลาในรถไฟฟ้าใต้ดิน ของบริษัทจินป่าว พรีซิชั่น อินดัสทรี่ จำกัด
- กิจการผลิตเครื่องจักรอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และยางรถยนต์ ของบริษัท อิโซเบะ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นต้น
ล่าสุดบีโอไอยังได้อนุมัติการลงทุนในกิจการผลิตหุ่นยนต์ เครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับระบบอัตโนมัติเพื่อการอุตสาหกรรม ของบริษัท นาชิ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตรายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้วถึง 9 โครงการ ตั้งแต่ปี 2542 โดยได้ขยายการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เพื่อตั้งโครงการผลิตหุ่นยนต์ (Industrial Robots) ที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.ระยอง โดยเป็นหุ่นยนต์สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป
รวมทั้งจะมีบริการซ่อมแซมหุ่นยนต์ที่ผลิตเอง ซึ่งจะช่วยทดแทนการนำเข้าหุ่นยนต์และเครื่องจักรสำหรับงานอุตสาหกรรมจากต่างประเทศ คาดว่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 764 ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้บริษัทยังได้ตั้งศูนย์จัดแสดงสินค้าสำหรับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ตลอดจนส่วนทดสอบการให้บริการ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบ และอบรมการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติให้กับลูกค้า (Robot Technical Center) ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นศูนย์แห่งที่ 4 ของบริษัท หลังจากที่มีการจัดตั้งแล้วที่สหรัฐอเมริกา จีน และไต้หวัน และในอนาคตหากการใช้งานหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในไทยขยายตัวบริษัทก็มีแผนจะขยายการผลิตและเปิดศูนย์ฯเพิ่มขึ้น
นางหิรัญญา กล่าวว่า โครงการลงทุนของบริษัทครั้งนี้นับเป็นการลงทุนโครงการที่ 10 ในประเทศไทย และเป็นโครงการแรกของบริษัทที่มีการลงทุนผลิตหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์เหมือนกับบริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นดำเนินการในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยี ความรู้เกี่ยวกับหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในรูปแบบสหกิจศึกษา (Work Integrated Learning :WiL) กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อพัฒนาบุคลากรช่างฝีมือในประเทศไทย
“การขยายการลงทุนของบริษัท นอกจากสอดคล้องกับการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจต่อศักยภาพและความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการผลิตและภาคบริการของไทย รวมถึงยังมีส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของภูมิภาคอาเซียนในอนาคตอันใกล้อีกด้วย” นางหิรัญญา กล่าว
สำหรับกิจการของบริษัทนาชิที่ได้ลงทุนในประเทศไทยแล้ว อาทิ กิจการผลิตตลับลูกปืนสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วนเหล็กหล่ออุปกรณ์เครื่องจักร การจัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศ (IHQ) และบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (ITC)